ความเคลื่อนไหวของขุนพลนักเตะโต๊ะเล็กทีมชาติไทย ที่กำลังเตรียมทีมสำหรับเกมอุ่นเครื่องเก็บคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งด้วยการพบกับทีมชาติญี่ปุ่นยอดทีมแถวหน้าของเอเชียในวันที่ 1 ก.พ. และ 3 ก.พ.นี้ ซึ่งล่าสุดเมื่อ 28 ม.ค.ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทยทางทีมยังทำการฝึกซ้อมกันอย่างหนักทั้งช่วงเช้าและเย็น โดยวันนี้ได้เน้นในเรื่องของการเล่นเซตเพลย์ แท็กติกการโจมตีรูปแบบต่างๆ และปิดท้ายด้วยการแบ่งข้างลงเกมสนามใหญ่
หลังการซ้อม “ปูลปิส” โฆเซ่ มาเรีย เมนเดส เฮดโค้ชชาวสเปนของ ฟุตซอลทีมชาติไทย ก็ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของทีมว่า “ตอนนี้ยอมรับว่าเรามีปัญหาในเรื่องของสมาธิและความมุ่งมั่น ซึ่งการฝึกซ้อมวันแรกของสัปดาห์นี้ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ถือว่านักเตะเรายังทำได้ไม่ดี ถ้าเปรียบกับการฝึกซ้อมในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งหากเราลงเล่นในสภาพนี้ก็ต้องยอมรับว่าเราต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างแน่นอน”
“นอกจากนี้ ปูลปิส กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่เราได้อุ่นเครื่องกับทีมชาติญี่ปุ่นทั้ง 2 นัด สิ่งสำคัญที่สุดที่ตนจะเน้นที่สุดคือการทดสอบผู้เล่น เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่านักเตะที่เรามีสามารถเล่นได้ในระดับไหน ซึ่งผู้เล่นหลายคนสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าสามารถเล่นในระดับอาเซียน ซึ่งตนเองก็อยากที่จะให้พวกเขาได้พิสูจน์ว่าสามารถเล่นในระดับเอเชีย โดยเฉพาะกับทีมชั้นนำอย่างทีมชาติญี่ปุ่นกับทีมชาติคูเวตได้หรือไม่”
ด้าน “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลของไทย ก็กล่าวถึงเกมการอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่นว่า “โอกาสที่เราจะเจอกับทีมที่แข็งแกร่งแบบนี้ไม่ง่ายนัก ครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการเตรียมทีมฟุตซอลไทยสู้ศึกรายการใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะการชิงแชมป์เอเชียในปี 2020 ที่จะคัดเลือกไปชิงแชมป์โลกด้วย”
“ก็ฝากน้องๆดาวรุ่งหลายๆคน มีโอกาสลงสนามก็ทำผลงานให้เต็มที่ เหมือนเช่นที่รุ่นพี่อย่าง กฤษดา วงษ์แก้ว ก็เคยแจ้งเกิดกับแมตซ์อุ่นเครื่องกับญี่ปุ่นมาแล้วเมื่อปี 2010 ซึ่งครั้งนั้นเขาได้รับโอกาสลงสนามและโชว์ฟอร์มเข้าตาจนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมได้สำเร็จ ก็อยากให้น้องๆดูเป็นแบบอย่างว่าถ้ามีความมุ่งมั่นตั้งใจก็ประสบความสำเร็จได้”
สำหรับ ทีมชาติญี่ปุ่น จะเดินทางมาถึงเมืองไทยในวันที่ 29 ม.ค. ก่อนจะลงสนามอุ่นเครื่องกับทีมฟุตซอลไทย 2 แมตซ์ ในวันที่ 1 ก.พ.เวลา 19.00 น. และวันที่ 3 ก.พ.เวลา 16.00 น.ที่สนามบางกอก อารีน่า โดยเปิดให้แฟนโต๊ะเล็กเข้าชมฟรีทั้งสองนัด