ชลบุรี เอฟซี แสดงความเห็นด้วยกับการแยกลีก ออกมาจาก สมาคมฯ แต่มีเงื่อนไข ที่จะต้องทำงานอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม
ชลบุรี เอฟซี ยืนยันว่าพวกเขาเห็นด้วยกับการแยก ไทยลีก ออกมาจาก สมาคมฯ แต่ก็มีเงื่อนไขที่จะต้องทำให้ทุกอย่างเกิดความยุติธรรม
สำหรับ ไทยลีก มีความคิดที่จะแยกออกมาจาก สมาคมฯ หลังจากที่ ค่าลิขสิทธิ์ตกมาจนเหลือ 50 ล้านบาทเท่านั้น
“ประเด็นการแยกลีกไปบริหารจัดการเอง มีความเห็นแตกออกเป็นสองฝ่าย ซึ่งต่างก็มีเหตุผลที่ดีทั้งคู่ ทีมใหญ่ที่มีเงินอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็รอด แต่ก็ยังรู้สึกดีใจที่ผู้บริหารสโมสรใหญ่ๆ อย่าง คุณเนวิน คุณปวิณ และคุณแป้ง ที่มีคุณูปการต่อฟุตบอลไทยเป็นอย่างสูง ที่ได้สละเวลาและทุนทรัพย์ ลงมาสร้างสีสันให้กับวงการ ทุกท่านต่างแสดงวิสัยทัศน์ว่า ทุกทีมต้องเดินไปด้วยกัน ไม่ใช่เอาแค่ทีมใหญ่รอด” ธิติกร อาจวาริน เลขานุการสโมสรโพสต์
“หากฝ่ายสิทธิประโยชน์และไทยลีก ซึ่งได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว คิดว่าถึงทางตัน มันก็ไม่มีทางเลือกที่เราจะต้องเสี่ยง ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ก่อให้เกิดเป็นพรีเมียร์ลีกขึ้นมา และเขาก็สามารถบริหารให้ประสบความสำเร็จ โดยหลักการของเขาคือความเสมอภาค ส่งผลให้เป็นที่เชื่อมั่นของสโมสร, แฟนบอล และสปอนเซอร์ จนก้าวขึ้นมาเป็นลีกอันดับหนึ่งของโลกได้อย่างแข็งแกร่ง”
“จุดยืนของชลบุรี ในเรื่องนี้คือ การยอมรับการแยกลีกออกมาบริหารจัดการเอง แบบมีเงื่อนไขดังนี้ 16 ทีมไทยลีก ต้องมีส่วนร่วมในการบริหาร และออกสิทธิออกเสียงอย่างเท่าเทียมกัน มีการคัดสรรผู้ที่มีความสามารถเข้ามาบริหารองค์กร Equal Share หรือเงินส่วนแบ่งของทุกทีม ช่วงแรกต้องได้เท่ากัน คือหาได้เท่าไหร่ต้องแบ่งทีมใหญ่ทีมเล็กเท่าๆ กัน เพื่อประคองทีมเล็กก่อน เมื่อลีกเติบโตกว่านี้ จึงค่อยคิดถึงเรื่อง Rating Share (ทีมที่เป็นที่นิยม)”
“เสนอให้มี Parachute Payments หรือ เงินช่วยเหลือทีมที่ตกชั้น เหมือนที่พรีเมียร์ลีกมี อาจจะ 50% หรือน้อยกว่านั้น เพื่อพยุงทีมที่ตกชั้นไม่ให้เจ็บหนักจนเกินไป สมาคมฯ ต้องดูแลสโมสรในไทยลีก 2 และ ไทยลีก 3 ให้ดี จากหุ้นส่วน ที่สมาคมฯ ถืออยู่ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากสมาคมฯ ซึ่งจะมีบทสรุปเรื่องนี้อีกครั้ง หลังการประชุมสภากรรมการฯ ในวันที่ 3 ก.ค. 2566 สุดท้ายทุกอย่างจะสำเร็จได้หรือไม่ ฟุตบอลไทยจะเดินต่อไปได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่ที่แฟนบอลที่จะต้องสนับสนุนทีมของตัวเอง เพื่อให้สโมสรยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองไปตราบนานเท่านาน”