ชนาธิป สรงกระสินธ์ เล่าเบื้องหลังก่อนจะย้ายมา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และยืนยันว่าจะพยายามพาทีมคว้าแชมป์มาครองให้ได้
ชนาธิป สรงกระสินธ์ เปิดใจเล่าเบื้องหลังทั้งหมดก่อนย้ายมา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พร้อมตั้งเป้า พาทีมคว้าแชมป์ให้ได้
สำหรับ ชนาธิป ปิดตำนาน เจลีก ที่ 7 ปี และเลือกย้ายจาก คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ มาอยู่กับ บีจี
“เจ็ดฤดูกาลในการเล่นเจลีก ผมรู้สึกขอบคุณโอกาสที่ผมได้ไปเล่นที่นั่น ผมรู้สึกว่าได้เล่นเจ ลีกครั้งแรกเป็นอะไรที่กดดันที่สุด ก็มีคนสบประมาทตัวเรา แม้แต่เพื่อนร่วมทีม แม้คนดูในเจลีก และคนไทยก็ตาม ทุกคนก็คงไม่เชื่อว่าผมเล่นได้ แต่สุดท้าย ผมก็สามารถพิสูจน์ให้ตัวเอง และทุกคนได้เห็นว่าผมเล่นในเจลีกได้ ที่เป็นลีกอันดับหนึ่งในเอเชีย” ชนาธิป กล่าว
“เขาก็ได้สอบถามมาว่า คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ ยื่นข้อเสนอมา สนใจไปไหม ผมก็ตอบไปโดยไม่ได้ลังเล ก็แน่นอนว่่าอยากไป จริงๆ ผมรู้สึกกดดันมาก ผมไม่คิดว่าคนญี่ปุ่น และเป็นทีมใหญ่ในญี่ปุ่นจะมาซื้อผม จากแค่นักฟุตบอลไทยคนหนึ่งมูลค่าสูงที่สุดในเจลีก ผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ผมเลือก ถ้าวันนั้นผมไม่ก้าวออกมา เชื่อไหมว่า ผมก็จะไม่ได้รู้ว่า ฟุตบอลอีกแบบเป็นอย่างไร”
“ผมจะไม่รู้ว่าแต่ละสถานการณ์ที่เจอ เป็นอย่างไร มันยากตรงที่ผมมาอยู่กับทีมที่เขาเป็นแชมป์ ถามว่าผิดหวังในตัวเองไหม ผมผิดหวัง ที่ผมไม่สามารถทำตัวเองได้ดีกว่านี้ แน่นอนว่าช่วงเวลากับ คาวาซากิ ฟรอนทาเล่ ล้มเหลวไหม แน่นอน แต่เจ็ดปี ในเจลีก ล้มเหลวหรือไม่ ผมว่าไม่มีอะไรต้องพิสูจน์แล้ว ผมเป็นนักฟุตบอล ทุกคนคิดว่าญี่ปุ่น มันง่าย สบาย รับเงินเดือน ซ้อมสบาย คนเหล่านั้นมองแค่ภาพภายนอก ผมเป็นนักฟุตบอล ผมอยากเล่น ให้ทุกคนได้ดู แต่ผมไมได้เล่น ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากเสียเวลา ผมอยากเล่นฟุตบอลมากกว่า”
“การย้ายมาบีจี แบบละเอียดๆ ก็มาดามแป้ง ติดต่อผม เขาอยากให้ผมไปท่าเรือ แน่นอนว่าผมก็ตอบว่าสนใจ ตามที่มีข่าาวต้องขอบคุณ คุณแป้ง พอเป็นข่าว หลายทีมก็ติดต่อมา มีข้อเสนอจาก บีจี, บุรีรัมย์ และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มันก็พูดยากนะเจ็ดปีกับการกลับมาเมืองไทย อีกครั้ง”
“ต้องขอบคุณ คุณปวิณ ที่เขาอยากได้ตัวเรา ขอบคุณ สารัช และ ธีรศิลป์ ที่ให้คำแนะนำ และเราก็เคยซ้อมร่วมกัน ผมเห็นความมืออาชีพในทีม สตาฟฟ์โค้ชและหลายอย่าง ห้องฟิตเนส ทุกอย่าง บีจี คือบ้านใหม่ของผม และคงเป็นบ้านที่อบอุ่นสำหรับผม ทุกคนมองว่ากลับมา เจจะเป็นคนเดิมหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ผมต้องพิสูจน์ ให้ทุกคนเห็นในสนาม”
“สิ่งที่ผมไปเรียนรู้จากเจลีก มาเจ็ดปี สุดท้ายผมคงทิ้งความเป็นมืออาชีพตรงนั้นไมได้ แน่นอนว่าเป้าหมายแรกคือผมอยากเป็นแชมป์ การเล่นฟุตบอลมันต้องมีแชมป์อยู่แล้ว เพราะว่าความฝันคือเจลีกสูงสุด แต่ความฝันในการกลับมาก็คือการได้แชมป์กับบีจี ทุกคนก็เฝ้ามอง แฟนบีจี ก็เฝ้ามอง แม้กระทั่งแฟนบอลชาวไทย อยากจะบอกว่าเป้าหมายของผมคือ การเอาแชมป์ไปพร้อมกับบีจี”