เอดินสัน คาวานี่ ตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาเข้าไปช่วย เมสัน กรีนวู้ด จากการทะเลาะกับ จานลูก้า มันชินี่
“ปีศาจแดง” เอาชนะ “หมาป่ากรุงโรม” ได้ในรอบรองชนะเลิศของ ยูโรป้าลีก ด้วยสกอร์รวม 8-5
ยูไนเต็ด เอาชนะจากเลกแรกในบ้านด้วยสกอร์ 6-2 ก่อนที่จะไปพ่ายในเลกที่สองด้วยสกอร์ 2-3
ขณะที่สกอร์ยังอยู่ที่ 2-2 ในเลกที่สอง, กรีนวู้ด ได้มีเรื่องกระทบกระทั่งกับ มันชินี่ ก่อนที่ ริค คาร์สดอร์ป จะเข้าไปร่วมวงจน คาวานี่ ต้องเข้าไปห้ามปราม
แม้กองหน้าวัย 34 โดนคาดโทษด้วยใบเหลืองจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เขาก็มองว่าคุ้มที่ป้องกันไม่ให้ กรีนวู้ด โดนใบแดงได้
“ผมพูดมาเสมอว่าผมทุ่มเทเต็มที่กับฟุตบอล” เขากล่าว
“ผมอยู่ในสนามและเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ทุ่มเทกันสุดๆ และผมก็ทำสุดความสามารถเพื่อทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้”
“มันมีบางครั้งเมื่อคุณอยู่ในสนาม แล้วผมรู้สึกว่าคุณต้องได้รับการปกป้องและผมต้องยืนหยัดเพื่อเพื่อนร่วมทีม”
“บางครั้งมันอาจเป็นเรื่องของการขาดประสบการณ์หรือการทำผิดพลาด แต่หลายครั้งมันเป็นเพราะคุณเชื่อว่าสถานการณ์ที่คุณต้องเผชิญมันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”
“ในเหตุการณ์ระหว่างเกมกับ โรม่า, ผมมองว่ามันเป็นการโต้เถียงกันซึ่งๆหน้ากับกองหลังฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ในเกมฟุตบอล”
“แต่นาทีถัดมา มีคนที่ 3 เข้าไปในเหตุการณ์นั้นและเริ่มผลักเขา ทั้งๆที่ไม่ได้มีส่วนในการโต้เถียงตั้งแต่แรก”
“ผมบอกกับเขาให้เลี่ยงเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง นั่นคือเหตุผลที่ผมเข้าไปช่วย เมสัน และปกป้องเขา”
“ผมพยายามแยกพวกเขาออกจากกันเพื่อให้เหตุการณ์มันสงบลง, เราอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของเกมและเขาอาจจะโดนใบแดงได้เลย”
“ผมได้รับใบเหลืองจากปัญหาที่ผมก่อ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการปกป้องเขาและป้องกันไม่ให้เรื่องมันเลยเถิด”
นอกจากนี้ คาวานี่ ยังยอมรับว่าประทับใจทัศนคติของแข้งวัยทีน ที่หมั่นเรียนรู้เคล็ดลับจากเขาอยู่เสมอ
“ใช่ ผมพูดเรื่องนี้ไปหลายครั้งแล้ว” เขาตอบเมื่อถูกถามว่า กรีนวู้ด จะมีอนาคตที่สดใสรออยู่หรือไม่
“ผมเชื่อว่าในฐานะนักเตะ, เมื่อถึงจุดหนึ่งในการเล่นระดับสูง อย่างที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้, ผมเชื่อว่าถ้าคุณตั้งเป้าหมาย, ถ้าคุณต้องการบางอย่างจริงๆ, ถ้าคุณโฟกัสกับบางอย่างที่คุณต้องการคว้ามาเป็นของตัวเองและทีมของคุณแล้วล่ะก็ คุณทำมันได้แน่นอน”
“คุณสามารถพัฒนาตัวเอง, เติบโตในฐานะนักเตะ และดีขึ้นกว่าเดิมได้”
“มันขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง, เช่นเดียวกับกองหน้าคนอื่นๆของเรา, พวกเขาเป็นกองหน้าวัยหนุ่มที่มีเส้นทางอาชีพอีกยาวไกลรออยู่ข้างหน้า และมันขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเองว่าจะต้องการพัฒนาและเติบโตขึ้นในฐานะนักเตะแบบไหน”