คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ ชี้แจงเรื่องหลักเกณฑ์ การลงโทษ ผู้ตัดสิน เกี่ยวกับระยะเวลาการลงโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ ได้มีการประชุมพิจารณาลงโทษ ผู้ตัดสิน ในรอบสัปดาห์ หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพรายการต่างๆ ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน เพื่อพิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันฟุตบอล และเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน นั้น
ในกรณีที่มีการเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน หรือ ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน มีบทลงโทษแล้ว และไม่มีการขออุทธรณ์โทษจากตัวผู้ตัดสิน รวมถึงสโมสรที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นการสิ้นสุดตามกระบวนการลงโทษ เช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ ที่ได้พิจารณาลงโทษผู้ตัดสินในรอบที่ผ่านมาแล้ว เช่น กรณีการลงโทษ นายวุฒิพงศ์ เกตุคำ ผู้ตัดสิน พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน จากการปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ที่เป่าฟาวล์และไม่ปฏิบัติตามหลักการของ VAR Protocol ส่งผลต่อการเป็นประตู และมีผลต่อการแข่งขันของ สโมสรราชบุรี เอฟซี ในเกมพบกับ สโมสรสุโขทัย เอฟซี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ พร้อมด้วย นายฐนวรรษ นิติธรรมวิศรุต กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงหลักเกณฑ์ของบทลงโทษผู้ตัดสินมีระยะเวลา คาบเกี่ยวกับช่วงสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขัน นั้น ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอล กีฬาฟุตซอล และกีฬาฟุตบอลชายหาด ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หมวดที่ 9 ข้อ 57 วรรคท้าย ได้ระบุไว้ว่า
“ในกรณีที่สิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันประจำปีแล้ว หากเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ถูกลงโทษจากคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท หรือ สมาคมแต่งตั้ง และยังมีโทษติดค้างอยู่ ให้มีผลผูกพันถึงในฤดูกาลถัดไป โดยให้เป็นไปตามปฏิทินการแข่งขันประจำปีของสมาคมฯ”
“ดังนั้น กรณีของ นายวุฒิพงศ์ เกตุคำ ผู้ตัดสิน ที่คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาลงโทษ 2 เดือน จะไม่ถูกนับโทษในช่วงปิดฤดูกาล และโทษจะต้องนำไปนับต่อจนครบในฤดูกาลแข่งขันหน้า 2567/68”
ทั้งนี้ ทราบว่าฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้วางกำหนดการจะเริ่มในช่วงเดือนสิงหาคม 2567 หรือหากเริ่มในเดือนอื่นใด ก็จะนับโทษให้มีผลผูกพันในเดือนนั้นต่อจนครบ โดยเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายที่มีการแต่งตั้งผู้ตัดสินที่จะต้องนำบทลงโทษไปปฏิบัติตามคำสั่ง ให้เป็นไปตามปฏิทินการแข่งขันประจำปีของสมาคมฯ ต่อไป และ คณะกรรมการฯ จะนำบทบัญญัติข้างต้นบังคับใช้ในการพิจารณาลงโทษผู้ตัดสินในทุกกรณีที่มีการพิจารณาในช่วงนี้เช่นกัน”