หาก ชลบุรี เอฟซี ต้องโบกมือลา ไทยลีก ฤดูกาลหน้า มันคงเป็นเรื่องที่ใจหายไม่น้อย สถานการณ์ของทีมตอนนี้จะเดินหน้าก็ไม่ไป จะถอยหลัง ก็กลัวจะกลับมาไม่ได้ อุปสรรคปีนี้ของฉลามมีมากมาย แต่สิ่งสำคัญคือจะมองข้ามต้นเหตุที่แท้จริงไม่ได้เลย
สถานการณ์ก่อนเตะไทยลีก 3 นัดสุดท้าย ภาพการลุ้นแชมป์เริ่มชัดเจนขึ้น ส่วนการหนีตกชั้น ที่เหมือนไม่ชัดเจนต้องลุ้นมาตลอดตอนนี้ก็ดูเริ่มมีเค้าลางและดูแล้วว่า จะมีใครจะตกชั้น โดยทีมที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น ยักษ์หลับ อย่าง ชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้สถานการณ์ถือว่าน่าเป็นห่วงสุดๆ
ย้อนกลับไปในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล การได้ตัว มาโกโตะ เทกุระโมริ ที่เคยฝากผลงานกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทุกอย่างดูสวยงาม หลายคนมองไปถึงการปลดล็อคถ้วยแชมป์ ครั้งแรกในรอบหลายปี ยิ่งโดยเฉพาะเด็กจากอคาเดมี ที่เหมือนถูกบ่มมาอย่างเต็มที่ น่าจะพร้อมแล้วสำหรับฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม ภาพแห่งความฝัน กับ โลกแห่งความจริง กลับเป็นเหมือนตลกร้าย เพราะภาพที่แท้จริงแสดงออกมาให้เห็นว่า ชลบุรี ไม่แข็งแกร่งพอ เล่นดี แต่ยิงไม่ได้และต้องแพ้ พอเล่นแย่ก็กลายเป็นการพ่ายแพ้แบบขาดลอย
ข้ออ้างที่สามารถพูดได้ แต่ก็มีข้อแก่ต่าง
ณ ตอนนี้ อุปสรรคต่างของชลบุรี ถูกเปิดเผยออกมาเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงาน โครงสร้างอคาเดมีของทีม และปัญหาการเสริมทัพนักเตะต่างขาติที่ไม่สามารถช่วยทีมได้ หรืออาจจะโทษไปถึง มาโกโตะ เทกุระโมริ รวมถึง สมาคมฯก่อนหน้านี้ ที่ไม่มีเงินสนับสนุน
ชลบุรี สามารถบอกได้ว่า ที่พวกเขาเป็นแบบนี้ เพราะการวางโครงสร้างของ เทกุ ที่ไม่ดี จนสุดท้ายต้องแยกทางกันไปในช่วงหลังจบเลกแรก
หรืออาจจะโทษทีมชาติไทย ที่ดึงนักเตะของพวกเขาไปเยอะมาก และพวกเขาก็เสียสละอย่างมากในการปล่อนนักเตะไปช่วยชาติ ไม่ว่าจะเป็น U23 หรือชุดใหญ่ ในโปรแกรมลุยยุโรป
หรืออาจจะโทษสปอนเซอร์ที่ถอนตัวกลางทาง จนทำให้สถานการณ์ของพวกเขาย่ำแย่หนักเข้าไปอีก หรืออาจจะโทษนักเตะของพวกเขา อย่าง วิลเลียน ลิร่า ที่มีโอกาสมากมายแต่ก็เปลี่ยนเป็นประตูได้น้อยมาก โทษ พาทริค เดย์โต้ ที่พลาดบ่อยครั้ง โทษการต้องปล่อย กฤษดา กาแมน ออกจากทีม
ชลบุรี สามารถโทษทุกอย่างได้เลย ณ ตอนนี้ กับสาเหตุที่ทำให้เกิดสถานการณ์อย่างที่เป็น ณ ตอนนี้
อย่าลืมโทษตัวเอง
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่พวกเขาจะมองข้ามไม่ได้ เลยก็คือตัวของทีมเอง เพราะที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยเจอปัญหาหนักแบบนี้มาก่อน ในขณะที่ทีมอื่นก็เจออุปสรรคเรื่องการเงิน แต่หลายสโมสรแม้จะทุลักทุเลแต่ก็ผ่านมาได้
สุดท้ายมันกลับย้อนมาที่ตัวพวกเขาเอง ณ วันนี้ หากมองไปที่คอมเมนต์ของแฟนบอล ส่วนใหญ่ ตำหนิ อคาเดมี ของ ชลบุรี เรื่องอะไรมากที่สุด คำตอบก็คงเป็นเรื่องวินัย นอกสนาม แน่นอนนักเตะที่วินัยดีก็มี แต่ที่วินัยไม่ดีล่ะ มันเป็นเรื่องที่พูดยาก โดยเฉพาะเรื่องการสังสรรค์ การสร้างร่างกาย ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในกีฬาฟุตบอล จริงอยู่ว่าหลักฐานไม่มีชัดเจน ว่าพวกเขา มีวินัยการกืนดื่มเป็นอย่างไร ทีมอื่นก็ทำเหมือนกัน ทำไมไม่เป็นแบบเดียวกับพวกเขา
แต่ตอนนี้ทุกเสียงต่างมองไปที่เรื่องนอกสนามของนักเตะ ชลบุรี ที่มีดราม่ามากมาย ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งที่ นี่คือสโมสรที่ปลุกปั้นนักกีฬาป้อนสู่ทีมชาติไทย มาอย่างต่อเนื่องทั้งชุดเยาวชน และ ชุดใหญ่ แต่เรื่องวินัยนอกสนาม แม้จะไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ชัดเจน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นขี้ปากของแฟนบอล ว่านี่คือปัญหาหลักที่ทำให้ชลบุรี เป็นแบบทุกวันนี้
ก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นอยู่แล้วหรือไม่เป็นก็ได้ แต่วันนี้ด้วยสถานการณ์ของทีมที่ย่ำแย่ ทำให้ทุกอย่างจ้องมาที่เรื่องนี้เป็นพิเศษ และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาอาจจะต้องวางว่ามันเป็นต้นเหตุ ที่พวกเขาต้องทำการแก้ไขให้เร็วที่สุด และไม่ใช่ทำมันด้วยคำพูด แต่ต้องทำมันด้วยการกระทำ เพื่อลดขี้ปากเหล่านี้ลงไป
เดินหน้าก็หนัก ถอยหลังอาจจะยิ่งหนัก
หลายคนอาจจะมองว่าการตกชั้นครั้งนี้ของชลบุรี อาจจะเป็นโอกาสในการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ แต่การตกชั้นมันน่ากลัวกว่าที่คิดเยอะ เพราะหากเทียบกับตราด ที่ขึ้นลงไทยลีก หรือ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่เคยตกชั้นไปแล้ว แล้วกลับมาได้ สถานการณ์ของ ฉลามชลน่ากลัวกว่าเยอะ
การลงไปเล่นไทยลีก 2 นอกจากการต้องเดินทางไกล ยังมีความท้าทายอีกมากมายที่พวกเขาต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นความเคี่ยวในการเจอกับทีมต่างจังหวัด การเจอสนามที่ไม่เรียบเนียน และทำให้การต่อบอล การครองบอลของพวกเขาไม่สามารถทำได้ง่ายเหมือนที่เล่นอยู่ในไทยลีก
นอกจากนี้ยังมีเรื่องนอกสนาม อย่างเช่นการขอลดเงินจากสปอนเซอร์ เมื่อคุณไม่ได้อยู่ในลีกสูงสุดของประเทศ รวมถึงประสบการณ์การเตะต่อเนื่องที่มีจำนวนแมตช์มากกว่าเดิม นั่นคือสาเหตุที่บอกว่าเดินหน้าว่ายากแล้ว ถอยหลังลงไปอาจจะน่ากลัวกว่า
ยิ่งก่อนหน้านี้ อย่างที่เห็น แม้จะบอกว่า ชลบุรี เอฟซี เคยมีประสบการณ์ในลีกรองมาแล้ว อย่างเช่นการส่งเด็กไปเล่นในลีกรอง และสร้างทีม ไม่ว่าจะเป็น พานทอง เอฟซี, บ้านบึง เอฟซี, ศรีราชา ซูซูกิ ทุกทีมเหล่านั้น ทุกวันนี้พอตกชั้นก็หายไปจากสารบบของฟุตบอลไทย
ศรัทธา ฟ้า-น้ำเงิน
แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าจะไม่หายไปของชลบุรี ก็คงเป็นแฟนบอล ที่หลายคนต่างผูกพันกับสโมสร และเมื่อไหร่ก็ตามที่สโมสรมีข่าวเสียหาย พวกเขาเหล่านี้ก็พร้อมช่วยกันปกป้อง ฉลามชล ของพวกเขาอย่างเต็มที่ จนบางทีหลายสโมสรก็อาจจะรู้สึกอิจฉา ชลบุรี ที่มีแฟนบอลมากมาย ที่พร้อมใจเชื่อมั่นในสโมสรมาเสมอ
คำถามคือสิ่งที่พวกเขาได้รับล่ะ ในช่วงที่ผ่านมา พวกเขาต้องรับกับความผิดหวัง ข่าวนอกสนามในด้านไม่ดีมากมาย ที่พวกเขาเชื่อว่าสโมสรสามารถแก้ไขได้ สามารถทำได้ดีขึ้น แต่สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน หากกล้องจับไปข้างสนาม แววตาของพวกเขาไม่ได้มีความดูฟุตบอลแล้วสนุก ทุกอย่างเต็มไปด้วยความอึดอัด เอามือปิดหน้าบ้าง เอามือกุมหัวบ้าง หันหน้าหนีบ้าง จนบางคนอาจจะมีคำถามในหัวว่านี่คือสิ่งที่เขาได้รับการตอบแทนจากความศรัทธา อย่างนั่นหรือ
เอาล่ะ!! ณ ตอนนี้พวกเขายังมีโอกาสแก้ตัว ในสามเกมสุดท้าย ที่เป็นภารกิจที่ยากพอๆกับการเข็นครกขึ้นภูเขา แต่นั่นคือสิ่งที่สโมสรต้องแสดงออกมา ไล่ตั้งแต่ ผู้บริหาร, นักเตะ และ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช เพราะมันยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าพวกเขาได้จบลงไปแล้ว
นี่คือโอกาสของพวกเขา และก็อย่างที่บอกว่านี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้าย และหากอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด สุดท้ายหากทีมรอดตกชั้น พวกเขาก็น่าจะรู้เหมือนกันว่าต้นเหตุที่พวกเขาต้องแก้คืออะไร มิฉะนั้น ฉลามอาจจะต้องตามโลมา, บลูมารีน, ราชสีห์บ้านบึง, พรานล่าเนื้อ ที่หายไปกับเกลียวคลื่น ของวงการฟุตบอลไทย ที่ยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง