ข่าวฟุตบอลการเสริมทัพ : การท่าเรือ เอฟซี กับครหา ซื้อมาดองแล้วดับ
การท่าเรือ เอฟซี

ทุกครั้งที่เข้าสู่ช่วงตลาดนักเตะเปิด การท่าเรือ เอฟซี คือสโมสรที่ถูกจับจ้องมากที่สุดเสมอ เพราะนี่คือทีมทุนหนา ที่พร้อมจะคว้าตัวนักเตะมาเสริมทัพตลอดเวลา แต่สุดท้ายมันก็เต็มไปด้วยคำวิจารณ์ ว่าซื้อมาดอง และซื้อมาดับ

นับถอยหลังอีกสัปดาห์เดียว ฟุตบอล ไทยลีก จะเข้าสู่ช่วงหยุดพัก และเป็นอีกครั้งที่จะมีการโยกย้ายถ่ายนักเตะ หลังตลาดนักเตะเปิดตัวขึ้นมา และปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในสโมสรที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ การท่าเรือ เอฟซี

แน่นอนว่าปฏิเสธไม่ได้ว่า การท่าเรือ ถูกโยงกับนักเตะเสมอ ยิ่งหากนักเตะรายนั้นมีโปรไฟล์หรู และโดยเฉพาะในช่วงหลังที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างโดยมี นวลพรรณ ล่ำซำ เข้ามาเป็นประธานสโมสร

นักเตะหลายรายย้ายเข้ามา พร้อมรับค่าเหนื่อยก้อนโตแตกต่างจากที่เคยรับก่อนหน้านี้ แต่มันกลับกลายเป็นว่า เส้นทางการเงินพุ่งขึ้น แต่เส้นทางชีวิตของนักเตะหลายคนพุ่งลง จากที่เคยติดทีมชาติก็หายจากสารบบ จากที่เคยฟอร์มดี แต่กลับกลายเป็นการเอาชื่อมาทิ้งที่ แพท สเตเดียม ทั้งที่สนามแห่งนี้ เปรียบเหมือนนรกทีมเยือน แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นเหมือนนรกของนักเตะใหม่หลายรายที่ย้ายเข้ามา

– ทำไมการซื้อส่วนใหญ่ของท่าเรือ ถึงแป้ก

แน่นอนว่าคำถามใหญ่ที่สุดคือ ทำไมการเสริมทัพของพวกเขาถึงไม่ประสบความสำเร็จ แตกต่างจากทีมอื่น ที่ซื้อและดูจะเข้าเป้ามากกว่า โดยเฉพาะบางทีมที่ไม่ค่อยมีเงิน แต่กลับแปรเปลี่ยนนักเตะจากระดับไทยลีก 3 มาเป็นไทยลีก หรือบางคนจากระดับไทยลีก ก็ผลักดันจนก้าวมาติดทีมชาติ

เครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ๆคือ นักเตะที่เข้ามาท่าเรือแต่ละคนต่างมีดีกรี มีโปรไฟล์ มีสถิติที่ดีเสมอในช่วงก่อนย้ายเข้ามา แต่พอย้ายมา ด้วยความคาดหวังที่ว่าจะนำความสำเร็จมาที่สิงห์เจ้าท่า กลับกลายเป็นการเอาชื่อมาทิ้ง

และไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ที่ยามมีข่าวลือนักเตะกับท่าเรือเมื่อไหร่ จะมีคอมเมนต์มากมาย ผลัดกันเข้ามาแซวว่า จะเอาชื่อมาทิ้งหรือ?, จะเข้าครอบครัวใช่ไหม, เตรียมที่นั่งที่นอนพร้อมหรือยัง?

– นักเตะใหม่ที่ไม่สามารถเบียดนักเตะเก่า

แน่นอน หลายคนมีข้ออ้างว่า เพราะนักเตะใหม่ไม่สามารถเบียดนักเตะแกนหลักชุดเดิมได้ อาจจะเพราะคุณภาพความเข้าใจ รวมถึงอะไรหลายอย่าง

แต่คำถามคือ ฝ่ายสรรหาล่ะ คนที่เสนอนักเตะเข้ามาล่ะ ถ้าเบียดไม่ได้ ซื้อมาทำไม ถ้าจะเสริมมันก็ต้องทำให้ทีมแกร่งขึ้น มีการแย่งชิงตำแหน่งแต่สุดท้ายตลอด 2-3 ปี ที่มี ตลาดถึง 6 รอบ กลับเป็นแกนหลักชุดเดิม ส่วนตัวใหม่ที่เข้ามาเป็นแค่ตัวสอดแทรก และสุดท้ายก็ย้ายออกไป

นักเตะเก่าผิดไหมที่ยึดตำแหน่งตัวจริง เขาไม่ผิดเลย นักเตะใหม่ผิดไหมที่ย้ายมา มันก็ไม่ผิด แต่มันเป็นคำถามถึงคนที่เลือกนักเตะเข้ามา ถ้าเลือกมาแล้วไม่ใช่ จะเลือกมาทำไม บอกว่าเขาไม่เก่งพอ ต้องรอเวลา แล้วถ้าหากไม่มีเกมเขาจะพัฒนาได้อย่างไร

– วัฒนธรรมท่าเรือ

หากย้อนไปก่อนหน้านี้ ในยุคที่ประสบปัญหาการเงินสิ่งสำคัญของนักเตะที่ลงสนามคือคุณภาพเป็นรองก็สู้ด้วยหัวใจ แต่ ณ ตอนนี้ คุณภาพมากขึ้น แต่สิ่งที่หายไปคือหัวใจ ในเมื่อทุกคนยังกินอิ่ม นอนหลับ การแพ้ การไม่ประสบความสำเร็จ มันก็ไม่ได้ล้มเหลวอะไร เงินยังเข้าเต็มกระเป๋า ซึ่งถือเป็นเรื่องดี

แต่คำถามคือ แรงจูงใจของนักเตะหายไปไหน มันก็ย้อนไปถึงโค้ชหรือผู้บริหาร ว่าจะทำอย่างไรให้นักเตะมีความกระหาย อยากที่จะประสบความสำเร็จ ไม่อยากที่จะพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้มันดูกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่รุมเร้าเข้ามามากเรื่อยๆ จนมันดูห่างไกลมาก ที่จะประสบความสำเร็จ

การเสริมทัพเข้ามา แทนที่จะเข้ามาแก้ปม แต่ดูเหมือนเป็นการขมวดปมมากขึ้นไปเรื่อยๆ แทนที่จะคลายปม แต่กลายเป็นการเพิ่มปม และสุดท้าย สิ่งทีเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็กลายเป็นภาพติดตา จนไม่ใช่เรื่องแปลกที่การเสริมทัพทุกครั้ง จะมีเสียงหัวเราะ เสียงแซวตามมาเสมอ ไม่ว่านักเตะคนนั้นจะมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน

– กุนซือที่แท้จริง

หลายสโมสรประสบความสำเร็จเพราะคนเสริมทัพ เปรียบเหมือนฟุตบอลต่างประเทศ จะมี ผู้อำนวยการฝ่ายคัดสรร, ฝ่ายเทคนิค ที่จะต้องประเมินให้ถูกต้องว่ามันคุ้มค่าไหม เข้ากับสโมสรหรือเปล่า

แน่นอนว่าโค้ชก็ต้องรับผิดชอบด้วยส่วนหนึ่ง แต่ตอนนี้ปัญหา คือคนที่เสริมทัพนักเตะเข้ามา เขาต้องมองให้ออกว่าคอนเซปต์ของนักเตะที่ต้องการเป็นแบบไหน ถ้าหากซื้อเข้ามาเพราะเขามีสถิติดีก่อนหน้า เขาดูเก่ง เขาติดทีมชาติ เขาดูมีอนาคต แค่นั้น สุดท้ายมันก็เหมือนกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคก่อนหน้า ที่ซื้อใครมา แม้จะข่าวที่ทำให้เราต้องร้องว้าว แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว

เพราะฉะนั้น มันเลยต้องวิเคราะห์ให้ดี เข้ามาแล้วเข้ากับสไตล์ของสโมสรไหม นักเตะบางคนเพิ่งดังปีเดียว ลองซื้อเข้ามาก่อน และคาดหวังว่าเขาจะดัง ซึ่งมันยากไม่ต่างอะไรกับการลุ้นหวย ยิ่งในกีฬาฟุตบอล ถ้าไม่ปัง มันก็พัง

สุดท้ายพอซื้อเยอะๆ จากเป้าหมายที่จะมายกระดับทีม กลายเป็นทำให้ทีมดร็อปลง แทนที่จะฉุดกันขึ้นไป กลับฉุดกันลงมา จนสุดท้าย จากจะดังกลายเป็นโดนดอง

เอาล่ะสุดท้าย หลายคนบอกว่าก็เงินเขา เขาจะทำอะไรก็ได้ และดีซะอีก เป็นการสร้างอาชีพให้นักเตะให้ตัวเขาได้เงินเข้ากระเป๋าพลิกชะตาชีวิต ช่วยสร้างระบบนิเวศฟุตบอลไทย แต่สุดท้าย มันต้องเจาะลึกลงไปว่า สิ่งที่เขาหว่านไปนั้น มันเป็นการสร้างหรือทำลาย

มิฉะนั้นตลาดนักเตะทุกรอบ การท่าเรือ ก็จะโดนหยิบบกมาแซวตลอดวนไปวนมา และสุดท้ายก็อาจจะโดนตำหนิว่า เงินซื้อนักเตะได้ แต่ซื้อความสำเร็จไม่ได้