วันที่ 6 มิถุนายน 2562 เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ โรงแรม คอร์ปธอร์น คิงส์ ประเทศ สิงคโปร์ ฝ่ายจัดการแข่งขัน สมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ จัดการงานแถลงข่าว ก่อนการแข่งขันฟุตบอล เมอร์ไลออน คัพ 2019 ที่จะแข่งขันกัน ในวันที่ 7 และ 9 มิถุนายน 2562
การแถลงข่าวในครั้งนี้ นำโดย อเล็กซานเดร กาม่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พร้อมด้วย เฮดโค้ชจากทั้ง 3 ชาติ อาทิ ฟานดี้ อาหมัด ของสิงคโปร์, อินทรา ซยาฟี จาก อินโดนีเซีย และ อันโต กอนซาเลซ จาก ฟิลิปปินส์
โดย อเล็กซานเดร กาม่า เฮดโค้ชทีมชาติไทย U23 กล่าวว่า “ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณ ที่เชิญทีมเราเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ การแข่งขันครั่งนี้ก็ถือเป็นรายการสำคัญของทีมชาติไทย ผมมีความสุขที่ได้มาที่นี่ เราเองก็ต้องเตรียมทีมเพื่อแข่งขันซีเกมส์ เช่นกัน แต่ทีมชุดนี้ที่มาก็ถือว่ายังขาดตัวหลักหลายคน ที่ต้องก้าวขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ ในรายการสำคัญอย่าง คิงส์ คัพ เรามีนักเตะใหม่หลายคน บางคนก็มาไม่ได้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็เป็นโอกาสดีในการดูผู้เล่นใหม่ๆ ก่อนจะไปแข่งรายการสำคัญ เราจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้”
“ทีมชาติไทยก็มีนักเตะหน้าใหม่มากมาย เหมือนกับอินโดนีเซีย การแข่งขันระหว่างไทยกับ อินโดนีเซีย ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สาม ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องแตกต่างจากครั้งแรก เราต้องการดูนักเตะหน้าใหม่ และพยายามหานักเตะที่ดีที่สุด ไปแข่งขันรายการซีเกมส์ และชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายที่เราเป็นเจ้าภาพ”
“ผมเชื่อว่าเกมนี้จะเป็นอีกเกมที่ดี เช่นเดียวกับสองเกมที่ผ่านมา แต่นี่ก็เป็นอีกเกม ก็ต้องรอดูกันว่าสุดท้ายจะเป็นยังไง”
“สำหรับผมการเล่นบนหญ้าเทียมถือว่าแตกต่างจากชาติอื่นๆ เพราะสนามในประเทศส่วนใหญ่ก็เป็นหญ้าจริง ซึ่งมันก็ยากที่จะปรับ และยิ่งเมื่อบวกกับฝนตกแล้วมันก็ทำให้บอลวิ่งเร็วขึ้น แต่เราก็มีการเตรียมตัวมาในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหาเท่าไหร่ เพราะเชื่อว่าทุกคนมีคุณภาพและสามารถปรับตัวได้”
ด้าน ฟานดี้ อาหมัด เฮดโค้ช ทีมชาติสิงคโปร์ U23 กล่าวว่า “สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ ปกติแล้วจะเป็นทีมชุดใหญ่ที่ลงเล่น แต่ครั้งนี้เราเปลี่ยนมาเป็นรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ซึ่งมันก็ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ดูนักเตะรุ่นใหม่ และถือเป็นการเตรียมทีมระยะยาว สำหรับการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์”
“เราเป็นเจ้าภาพ เราก็ฝึกซ้อมที่สนามหญ้าเทียม รวมถึงสภาพอากาศที่มีฝนตกมาอยู่แล้ว ก็ถือว่าโอเคไม่น่ามีปัญหา ซึ่งสุดท้ายแล้ว การเล่นในหญ้าเทียมหรือหญ้าจริงสิ่งสำคัญก็คือเรื่องเทคนิคส่วนตัวต่างๆว่าใครจะทำได้ดี”
“การเป็นเจ้าภาพแน่นอน เราก็ต้องการคว้าชัยชนะให้ได้ และนอกจากชัยชนะแล้ว ก็ต้องมาควบคู่กับฟอร์มการเล่นที่ดี นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้เล่นทุกคน ในการแสดงความสามารถออกมาให้เราเห็นว่าเขาดีพอที่จะได้เล่นในซีเกมส์ เราพยายามให้โอกาสนักเตะอายุน้อยหลายคน อย่างในทีมเราก็มีนักเตะอายุ 17 ปี ในทีม ส่วนเรื่องการถือศีลอด เราเองก็มีการฝึกซ้อมเพื่อรับมือ เราเตรียมทีมอย่างหนัก โอเคมันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับนักกีฬาที่เป็นมุสลิม แต่เราก็พยายามซ้อมในช่วงที่พระอาทิตย์ตกไปแล้ว เพื่อให้ทีมพร้อม ผมคิดว่าเรารับมือได้เป็นอย่างดี”
ขณะที่ อินทรา ซยาฟี เฮดโค้ช ทีมชาติอินโดนีเซีย U23 กล่าวว่า “การแข่งขันรายการนี้ก็ถือเป็นการเตรียมทีมสำหรับซีเกมส์ ซึ่งการได้แข่งร่วมกับทีมในอาเซียน ก็ถือเป็นการเตรียมทีมที่ดีสำหรับอาเซียน เราเปลี่ยนทีมจากทัวร์นาเมนต์ล่าสุดกว่าครึ่งทีม ซึ่งเราก็ยังมีเวลาอีกมากในการสร้างผู้เล่นหน้าใหม่ขึ้นมา ซึ่งหวังว่าเมื่อถึงเดือนกันยายน เราจะได้ชื่อผู้เล่นทั้งหมด ในการแข่งขันครั้งนี้ เราไมได้นำผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในยุโรปมา เราก็จะพยายามให้โอกาสแก่นักเตะหน้าใหม่ที่มาทั้งหมด หวังว่าเราจะทำผลงานได้ดี และทำให้ทีมมีความพร้อมมากขึ้น”
“การเจอกับไทยก็ถือเป็นการเตรียมทีมที่ดี และมีโอกาสที่เราจะได้เจอกับพวกเขาอีกครั้งในซีเกมส์ รายการนี้เราเองก็ต้องการทำให้แฟนบอลกลับมาเชื่อมั่นในทีมของพวกเราอีกครั้ง ซึ่งความมั่นใจก็เป็นสิ่งที่ต้องมีก่อนจะไปแข่งซีเกมส์ หวังว่าเกมกับไทย ผู้เล่นทุกคนจะทำผลงานได้ดี เป้าหมายของเราคือซีเกมส์ เพราะคร้้งสุดท้ายที่เราได้แชมป์ซีเกมส์ ก็ต้องย้อนไปถึง 28 ปีก่อน”
“สำหรับเราไม่มีปัญหาเรื่องหญ้าเทียม ส่วนเรื่องที่นักกีฬาส่วนใหญ่ต้องถือศีลอด แต่ผมคิดว่าเราพร้อม”
ส่วน อันโต กอนซาเลซ เฮดโค้ช ทีมชาติฟิลิปปินส์ U23 กล่าวว่า “เรามีความสุขมากที่ได้มาแข่งขันที่นี่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราทำผลงานได้ไม่ดีในการแข่งขันทั้งชิงแชมป์อาเซียน และ ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย รายการนี้ก็เป็นเหมือนการเตรียมทีมใหม่อีกครั้งหนึ่งของทีมของเรา ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีในการสร้างดาวรุ่ง เพื่อให้เขาก้าวขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่ เราจะใช้การแข่งขันรายการนี้ ในการมองหานักเตะที่มีพัฒนาการและเหมาะสมที่จะไปเล่นในซีเกมส์”
“สำหรับเรื่องหญ้าเทียม สำหรับฟิลิปปินส์ก็ถือเป็นเรื่องปกติ รวมถึงสภาพอากาศที่มีฝนตก ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากที่ฟิลิปปินส์ เท่าไหร่”
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล เมอร์ไลออน คัพ 2019 มีดังนี้
วันที่ 7 มิถุนายน 2562 ที่สนาม จาลัน เบซาร์
เวลา 15.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ไทย พบ อินโดนีเซีย
เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย สิงคโปร์ พบ ฟิลิปปินส์
วันที่ 9 มิถุนายน 2562 ที่สนาม จาลัน เบซาร์
คู่ชิงอันดับ 3 เวลา 15.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่ชิงชนะเลิศ เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
โดยทุกนัดที่ไทยลงทำการแข่งขัน จะถ่ายทอดสดทาง PPTV HD ช่อง 36
ขอขอบคุณ : ฟุตบอลทีมชาติไทย