บอลโลก“กาม่า” เปิดใจกับสื่อเวียดนาม กับการทวงเบอร์หนึ่งอาเซียน
buaksib sport news
อเล็กซานเดร กาม่า
อเล็กซานเดร กาม่า

VTC สื่อยักษ์ใหญ่ของเวียดนาม และ เจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เปิดบทสัมภาษณ์ของ อเล็กซานเดร กาม่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง พาร์ค ฮัง ซอ รวมถึงการพาช้างศึกทวงตำแหน่งเบอร์ 1 ภูมิภาคอาเซียน

โดย อเล็กซานเดร กาม่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวว่า “แน่นอน ผมรู้เขา (พาร์ค ฮัง ซอ) ดี เราเป็นเพื่อกัน และผมรู้จักสตาฟฟ์ของทีมชาติเวียนด U23 เกือบทั้งทีม”

พาร์ค ฮัง ซอ เคยคุม กียองนัม เอฟซี ในปี 2006 และ 2007 ก่อนที่ กาม่าจะเข้ามาคุมทีมต่อ ในปี 2008

“เขาเป็นโค้ชที่ดี และเป็นสไตล์เกาหลีแบบดั้งเดิม ผมเคยทำงานที่เกาหลีมาประมาณ 5 ปี และเคารพชาวเกาหลีทุกคน ผมได้เรียนรู้มากมายจากที่นั่น”

“เราเคยแข่งขันกันบ้างหลายครั้งที่เกาหลี ทุกคนต่างรู้จักเขา เราไม่ได้เจอกับบ่อย แต่เมื่อเราเจอกัน ทั้งผมและเขาต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ที่ผ่านมาก็มีโอกาสได้คุยกันบ้าง เกี่ยวกับช่วงที่ทำงานที่เกาหลี เขาเป็นคนดี ผมหวังว่าเขาจะคุมเวียดนามได้อย่างต่อเนื่อง”

“โค้ช พาร์ค ฮัง ซอ และ สตาฟฟ์โค้ช มาที่เวียดนาม และทำผลงานได้ยอดเยี่ยม พวกเขาเปลี่ยนแปลงฟุตบอลเวีดยนามไปมากมาย ทั้งความกระหาย รวมถึงความสำเร็จ”

“ตอนนี้เราต้องเจอกัน เราเป็นเพื่อกันก็ตริง แต่ตอนนี้ทั้งผมและเขาต่างต้องการทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อเอาชนะให้ได้ หลังจบเกมที่เราเจอกัน ผมหวังว่าเขาจะโชคดี แต่ตอนนี้ ผมเป็นโค้ชทีมชาติไทย และ เขาเป็นโค้ชทีมชาติเวียดนาม พวกเราต่างมีทีมที่ดี และเราไม่มีทางรู้เลยว่าสุดท้ายจะเนอย่างไร”

นอกจากนี้ กาม่า ยังได้กล่าวถึงความเป็นคู่รักคู่แค้นระหว่าง เวียดนามกับ ไทย ในด้านฟุตบอล ที่จะทำให้เกมที่ทั้งสองทีมพบกัน

“ผมรู้เรื่องความเป็นคู่รักคู่แค้นกันระหว่าง เวียดนาม กับ ไทย เป็นอย่างดี ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีของทั้งสองประเทศ ที่ต้องแข่งขันกันเพื่อยกระดับตัวเองขึ้นมา เวียดนามเป็นทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขาคว้าแชมป์อาเซียนได้ในครั้งล่าสุด และมีผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากมาย แต่ไทยเองก็มีนักเตะที่ดีหลายคน ซึ่งตลอด 2-3 ปี ที่ผ่านมา เราไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ผมเข้ามาตรงนี้เพื่อช่วยให้ทีมกลับไปเป็นเบอร์หนึ่งของภูมิภาค เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้”

buaksib sport newsbuaksib sport news