แม้อายุอานามจะย่างเข้าสู่วัย 36 ปี แต่ “เจ้ากบ” สุเชาว์ นุชนุ่ม กองกลาง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยอดทีมในโตโยต้า ไทยลีก ยังคงยืนหยัดบนลีกสูงสุดได้อย่างน่าทึ่ง
ยิ่งเมื่อมองอายุงานของนักบอลไทยรายอื่นๆ นับว่าน้อยคนนักที่รักษาสภาพร่างกายในลีกที่การแข่งขันเข้มข้นอย่าง สุเชาว์ ถือเป็นนักกีฬาที่น่าศึกษาแนวทาง
“ผมยังสนุกกับฟุตบอล และยังมีไฟอยู่” กบไซเบอร์ กล่าวเริ่มต้น
อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติไทย ยอมรับว่า ด้วยอายุขนาดนี้ แน่นอนว่าความแข็งแกร่งต้องมีถดถอยลงบ้าง แต่สิ่งที่เขาพยายามทำคือชะลอการถดถอยนั้นให้ได้มากที่สุด
“ทุกวันนี้ผมก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม ไทยลีกมีนักเตะแกร่งๆ สภาพร่างกายสำคัญ ไหนจะกลุ่มหนุ่มๆ ไฟแรง ไหนจะแข้งต่างชาติ”
“ดังนั้นสิ่งสำคัญคือผมต้องพยายามประคองสภาพร่างกายให้ดีที่สุด”
“เราซ้อมบอล แข่งบอล ใช้ร่างกายไปมาก การพักผ่อนสำคัญมาก ออกแรงมาเยอะ ต้องนอนให้เพียงพอ”
ขณะที่อาหารการกินนั้น สุเชาว์ บอกว่า ด้วยความเป็นคนไทย บางทีก็ชอบทานอะไรแบบไทยๆ อยู่แล้ว ทว่าเมื่ออยู่ในช่วงแข่งขัน ช่วงเก็บตัวโภชนาการอาหาร การทานสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญมาก
“เราต้องถนอมสภาพร่างกาย นักกีฬาใข้ร่างกายแลกเปลี่ยนกับอาชีพ แลกเปลี่ยนกับเงินทองที่ได้มา ดังนั้นเราก็ต้องดูแลเขาด้วย”
“สำหรับน้องๆ เรื่องพักผ่อนหย่อนใจ ผมเข้าใจว่ามันปกติ แต่ให้มองที่ความเหมาะสม ช่วงเวลาให้พอดี และก็อย่างที่ผมบอกข้างต้นคือต้องพักผ่อนเพียงพอคือเรื่องสำคัญ”
แม้วันนี้ สุเชาว์ จะยังโลดแล่นในฟุตบอลไทยลีก แต่เขาก็ยอมรับว่า เวลาการเล่นบอลอาชีพเหลือไม่มาก ซึ่ง เจ้ากบ ก็กรุยทางในด้านโค้ช เป็นหนึ่งในทางเลือก เมื่อไปลงอบรมโค้ช AFC ‘C’ Coaching Certificate Course ที่เพิ่งจบไปเมื่อต้นเดือน ธ.ค.
“ช่วงปิดฤดูกาล เราอยู่เฉยๆ เลยไปหาความรู้ ผมคงเล่นบอลอาชีพได้ไม่นาน แต่ด้วยความที่ใจรักฟุตบอล ก็ลองมาด้านโค้ชดู”
“ถือว่าชิมลางครับ ไม่รู้ว่าจะมุ่งทางนี้เลยหรือไม่ มาลองดูว่าต่อไปเราจะชอบ หรือไม่ชอบ ถือว่ามาเปิดเส้นทาง”
“ถ้ารู้สึกว่าติดใจด้านนี้ ก็อาจต่อยอดไปเรื่อยๆ ในระดับต่อไป ไม่แน่ในอนาคต อาจมีชื่อ โค้ชสุเชาว์ นุชนุ่ม เป็นสตาฟฟ์ หรือกุนซือสโมสรใดสโมสรหนึ่งก็ได้ครับ” เจ้ากบ กล่าวทิ้งท้าย
ขอขอบคุณ : Thai League
