กรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด ชี้แจงถึงเรื่องแนวทางเกี่ยวกับโควต้าอาเซียน สำหรับสโมสรไทยลีก ฤดูกาล 2019
ก่อนหน้านี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้จัดงานประชุมร่วมกับตัวแทนจากสโมสรใน โตโยต้า ไทยลีก โดยหนึ่งในประเด็นที่ถูกนำมาหารือคือเรื่องของโควต้าอาเซียน ในปีถัดไป ซึ่งมีข้อคิดเห็นว่าควรให้มีตัวเลือกในการใช้นักเตะอาเซียน โดยสามารถลงสนามคละกับนักเตะไทยได้แต่ไม่เกิน 3 คนในฤดูกาล 2019 ที่จะถึง
ซึ่ง กรวีร์ ได้กล่าวในงานแถลงข่าวก่อนเกมการแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก มีท เดอะ วอร์ริเออร์ส สัปดาห์ที่ 23 ว่า “ก่อนที่จะไปเรื่องของโควต้าอาเซียน ผมขอแสดงความยินดีกับทั้ง 8 สโมสร ที่เมื่อวานนี้มีการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีก คัพ ซึ่งมี 7 สโมสร ที่เป็นสโมสรจาก โตโยต้า ไทยลีก และขอแสดงความชื่นชมและยินดีเป็นพิเศษจากตัวแทนหนึ่งเดียวจาก ออมสิน ลีก โปร หรือ ไทยลีก 3 คือ แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ที่สามารถฝ่าฟันและสร้างปรากฎการณ์ ด้วยการก้าวเข้าไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
“อย่างที่บอกในสัปดาห์ที่แล้วว่า ยิ่งทีมเล็กๆ จาก ออมสิน ลีก โปร และ ออมสิน ลีก หรือแม้กระทั่งทีมนอกลีกที่ประสบความสำเร็จในฟุตบอลถ้วยมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เราได้เห็นถึงคุณภาพของเกมการแข่งขันของฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะเป็นในลีกสูงสุดและในลีกที่รองลงมา”
“ในเรื่องของโควต้าอาเซียน เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างท่านนายกสมาคมฯ และสโมสรใน โตโยต้า ไทยลีก ทุกคนก็มีความคิดเห็นที่ตรงกันเกี่ยวกับการกำหนดโควต้าอาเซียน ที่จะตั้งใจให้ไทยลีก เป็นลีกชั้นนำไม่ใช่แค่ภูมิภาคอาเซียน แต่มองไปถึงศักยภาพความสามารถของลีกไทย ที่สามารถเป็นลีกชั้นนำของเอเชียได้”
“หนึ่งในนั้นคือการสร้างมูลค่า ขยายขนาดฐานแฟนบอลในกลุ่มประเทศอาเซียน ปีนี้เป็นปีแรกที่ทาง โตโยต้า ไทยลีก มีการกำหนดโควต้าอาเซียน โดยสามารถขึ้นทะเบียนนักเตะเป็น 3 1 1 (ต่างชาติ 3 เอเชีย 1 อาเซียน 1) ขณะที่ 11 ตัวจริงเป็น 3 1 โดย 1 ในนั้นสามารถมีนักเตะเชื้อสายอาเซียนรวมอยู่ด้วย ดังนั้นเราจะเห็นว่าในฤดูกาลที่ผ่านมามีนักเตะอาเซียนทั้งหมด 15 คน ที่เดินทางมาค้าแข้งไทยลีก”
“ซึ่งหลายต่อหลายสโมสร ก็สร้างปรากฎการณ์เรื่องของการขยายฐานแฟนบอลได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่า ครั้งนี้น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้ไทยลีก ได้รับความสนใจมากขึ้น จากประเทศไทย ที่มีประชากรประมาณ 60-70 ล้านคน ก็จะขยายไป 600-700 ล้านคน ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
“ทุกสโมสรที่มาร่วมประชุมก็มีความคิดเห็นตรงกันว่า เราน่าจะขยับจากเวทีของประเทศไทยออกไปในเวทีระดับภูมิภาคในฤดูกาลหน้า ด้วยการกำหนดโควต้าอาเซียนที่จะลงสนามในการแข่งขันมากขึ้น แต่ต้องมีการทำความเข้าใจ เนื่องจากมีการสื่อสารที่สับสน กลายเป็นว่าจะเหลือนักเตะคนไทยในสนามเพียงแค่ 4 คน ซึ่งต้องบอกว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น”
“นี่เป็นเพียงแนวทางการกำหนดโควต้า ส่วนในทางปฏิบัติเป็นสิทธิ์ของสโมสรที่จะเลือกส่งโควต้าอาเซียนลงสนามกี่คน บางสโมสรอาจจะลง 1-3 คน บางสโมสรอาจจะไม่ส่งลงสนามเลยก็ได้ เพราะนักเตะอาเซียนที่เข้ามาค้าแข้งบางคนก็มีฝีเท้าที่สูสีกับคนไทย ทำให้การแข่งขันในทีมมีมากขึ้น ซึ่งช่วยให้นักเตะไทยที่เรามีอยู่ในปัจจุบันมีการพัฒนาฝีเท้าของตนเองมากขึ้นไปด้วย”
“ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางสมาคมฯ ก็มีแผนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อจะมาหารือกันว่า โควต้าที่เพิ่มขึ้นนั้น จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์อย่างไร เพื่อทำให้แน่ใจว่า นักเตะที่เข้ามา สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของฐานแฟนบอล และทำให้ลีกของเราพัฒนาขึ้นด้วย หากมีความคืบหน้าอย่างไรเราจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ” กรวีร์ กล่าวทิ้งท้าย
ขอขอบคุณ : FA Thailand