แบ็คซ้ายของทีมชาติไทย ยังรู้สึกดีใจเหมือนเดิม ที่ล่าสุดมีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทัพช้างศึกอีกครั้ง และจะพยายามทำงานให้หนักที่สุด เพื่อเป็นตัวเลือกแรกของ มิโลวาน ราเยวัช สำหรับลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2018
กรกช วิริยอุดมศิริ ดาวเตะ 30 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ เมื่อมีส่วนสำคัญช่วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก สมัยที่ 6 มาครอง และจากฟอร์มดังกล่าวทำให้หลายคนมองว่า กรกช มีโอกาสเป็นแบ็คซ้ายเบอร์หนึ่งแห่งทัพช้างศึกสูง ในขณะที่ทีมไม่มี ธีราทร บุญมาทัน ในทัวร์นาเมนต์นี้
“ยังรู้สึกดีใจเหมือนเดิมครับ ที่มีโอกาสทำเพื่อชาติ และมีส่วนร่วมในทีมชาติอีกครั้ง”
“ก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ ผมทำงานหนักมากครับ ในขณะที่คนอื่นๆ หยุดกันเป็นเดือน ผมได้หยุดเพียง 10 วัน เนื่องจากต้องมาเทสต์ร่างกายกับสโมสรก่อน เพราะหลังจากที่ผมผ่าตัดไปช่วงหนึ่ง พอกลับมาแล้ว ยังไม่เหมือนเดิม ก็ต้องพยายามเอาส่วนของกล้ามเนื้อกลับมาให้ได้ ก็ดีใจครับที่ปีนี้ ผมทำผลงานออกมาได้ดี และ มั่นใจมากขึ้น อย่างน้อยๆ มันคุ้มค่ากับสิ่งที่ผมสู้มา แต่โดยรวม ยังพอใจในระดับหนึ่งครับ ลึกๆ ผมยังอยากทำได้ดีกว่านี้”
“นี่เป็นครั้งแรกของผม กับรายการนี้ ส่วนตัวผมยอมรับว่ากดดันอยู่บ้าง เพราะรุ่นที่ผ่านมา ทำผลงานไว้ได้ดี แต่อีกมุม มันก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ และยิ่งท้าทายมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งกระตุ้นให้เราต้องทำงานหนัก ซึ่งผมคิดว่า มันเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน ผมจะพยายามทำหน้าให้ดีที่สุดครับ และสักครั้งในชีวิต ผมอยากคว้าแชมป์อาเซียน มาครองให้ได้”
“ฟุตบอลมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ จริงอยู่ที่เราเป็นแชมป์เก่า แต่การป้องกันแชมป์นั้นยากอยู่แล้ว ยิ่งทุกวันนี้ทีมในอาเซียนต่างพัฒนาขึ้นมาด้วย หลายทีมก็อยากคว้าแชมป์เหมือนกับเรา ดังนั้น มันไม่มีอะไรง่ายอยู่แล้วครับ ผมอยากให้เราโฟกัสแบบเกมต่อเกมดีกว่า”
“ขณะที่ในเรื่องของตำแหน่งตัวจริง แม้หลายคนอาจมองว่า ผมมีโอกาสได้ลงเล่นสูง แต่ผมว่าไม่จริง ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยครับ สำหรับฟุตบอล ไม่มีใครได้รับการการันตีตำแหน่งตัวจริง โดยที่ไม่ทำงานหนักหรอก ผมว่าทุกอย่างมันต้องพิสูจน์ และวัดกันในสนามครับ ระหว่างนี้ผมก็จะพยายามทำงานให้หนักที่สุด เพื่อเป็นตัวเลือกแรกของโค้ชให้ได้ครับ”
“รวมๆ ก็ถือว่าเข้าใจแท็คติคของโค้ชมากขึ้นครับ จริงอยู่ที่ บุรีรัมย์ ผมเล่นเป็นวิงแบ็ค (3-5-2) จากนั้นพอมาที่นี่ ผมเล่นเป็นฟูลแบ็ค (4-2-3-1) แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ เพราะผมพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่แล้ว และขณะนี้ ผมคิดว่า กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ ส่วนลูกนิ่งที่จุดเป็นจุดเด่นของผม ก็หวังว่า จะสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้ครับ”
“สุดท้าย ผมอยากขอกำลังใจจากแฟนบอลชาวไทย ให้เตรียมเข้ามาเชียร์เราเยอะๆ ครับ ในช่วงเวลา 1 อาทิตย์ที่เหลือนี้ ผมยืนยันว่า พวกเราทุกคน จะพยายามทำงานให้หนักที่สุดแน่นอน”
สำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ มีโปรแกรมอุ่นเครื่องแบบปิดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าชม 1 นัดกับ ชลบุรี เอฟซี วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 จากนั้น มิโลวาน ราเยวัช จะทำการตัดผู้เล่นให้เหลือ 23 ราย ก่อนเข้าทัวร์นาเมนต์ ชิงแชมป์อาเซียน 2018 โดย ทีมชาติไทย ในฐานะแชมป์เก่า อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ ติมอร์ เลสเต
ขอบคุณ FA Thailand
