แฟนบอลยุคใหม่อาจติดภาพว่าการคว้าแชมป์ลีกสำหรับบาเซโลน่าแล้วเหมือนขนมหวานที่พร้อมรับประทานแบบไม่ยากเย็นอะไร แต่ทว่าย้อนกลับไปในช่วงยุค 60-70 พวกเค้าต้องร้างราความสำเร็จไปนาน กระทั่งได้นักเตะเทวดา “ โยฮัน ครัฟฟ์ ” เข้ามาเสริมทัพ
นับตั้งแต่เข้าสู่ยุค 60 บาเซโลน่านั้นอยู่ภายใต้ร่มเงาของรีลมาดริดที่มีมีอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่เป็นตัวชูโรง นั่นทำให้หลังจากคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 1959/60 เจ้าบุญทุ่มก็ไม่เคยได้แชมป์อีกเลยตลอดยุค 60 สวนทางกับคู่ปรับอย่างราชันย์ชุดขาวที่ประสบความสำเร็จแบบข้ามหน้าข้ามตา
กระทั่งเข้าสู่ยุค 70 บาเซโลน่าก็ยังไม่อาจกลับมาทวงความสำเร็จได้เลย นั่นจึงทำให้พวกเค้าทุ่มเงิน 2 ล้านดอลล่าเพื่อคว้าตัวโยฮัน ครัฟฟ์จอมทัพชาวดัตซ์เข้ามาเสริมทัพในปี 1973 เพราะเชื่อว่าครัฟฟ์ที่เพิ่งพาอาร์แจ็กคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพสามสมัยรวดน่าจะพาทัพอันซูลกราน่ากลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ
โยฮัน ครัฟฟ์เข้ามาค้าแข้งในคัมป์นูเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1973/74 แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนเมื่อครัฟฟ์เข้ามาสร้างผลกระทบให้กับบาเซโลน่า เมื่อเจ้าบุญทุ่มเดินหน้าเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง แล้วในวันที่ 7 เมษายน 1974 โยฮัน ครัฟฟ์ก็พาบาซ่าเอาชนะสปอร์ติ้ง กิฆอน 4-2 ซึ่งนั่นทำให้บาเซโลน่าคว้าแชมป์ลาลีก้าได้สำเร็จอีกครั้งในรอบ 14 ปี แม้ว่าจะเหลือโปรแกรมการแข่งขันอีกถึง 5 นัดก็ตาม พร้อมกันนั้นโยฮัน ครัฟฟ์ก็ยังยิงไปถึง 16 ประตู ซึ่งความบังเอิญอีกหนึ่งประการก็คือเบอร์เสื้อที่เป็นเอกลักษณ์ของโยฮัน ครัฟฟ์ในยามลงสนามก็คือหมายเลข 14 ด้วยเช่นกัน
บาเซโลน่าใช้บริการโยฮัน ครัฟฟ์เป็นเวลา 5 ปี เค้าลงสนามรวมกัน 143 นัดยิงได้ 48 ประตู ก่อนจะอำลาทีมในปี 1978 แล้วดาวเตะดัตซ์ก็ตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลไปวาดลวดลายต่อในลีกฟุตบอลของประเทศสหรัฐอเมริกา
