ข่าวฟุตบอลเหตุการณ์ สุดคลาสสิค ที่แพท สเตเดียม และการตัดสินของกรรมการ
ผู้ตัดสิน

เกมที่ แพท สเตเดียม จบลงแบบสุดดราม่า ที่เมืองทอง ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์กลับมาชนะ การท่าเรือ เอฟซี พร้อมกับข้อครหาของ ผู้ตัดสิน ที่ไม่แฟร์?

ชัยชนะสุดดราม่าของ เมืองทอง ยูไนเต็ด เหนือ การท่าเรือ เอฟซี ถูกขโมยซีนโดยฉากจบของการแข่งขันที่มาดามแป้ง พุ่งเข้าไปหา ผู้ตัดสิน หลังจบเกม ก่อนไหว้งามๆ ไป 1 ที พร้อมกล่าวอะไรก็ไม่สามารถทราบได้ นอกจากคนที่อยู่ใกล้

แน่นอนเกมนี้ เมืองทอง สมควรได้รับเครดิตไปเต็มๆ กับการที่ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อน 0-2 แต่สามารถกลับมายิงสามประตูพลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้ ทั้งที่ทุกอย่างเป็นรองหมด ทั้งเรื่องของเสียงเชียร์ ความคุ้นชินสนาม

แต่ทั้งหมดกับจบลงด้วยการขโมยซีนของผู้ตัดสิน ที่ทางฝั่งเมืองทอง ก็คงแคลงใจกับช็อตเตะหลัง เยสเปอร์ นีโฮล์ม ของ แฮมิลตัน โซอาเรส ในครึ่งแรก ที่เป็นใบเหลืองทั้งที่หลายคนมองว่าควรเป็นใบแดง และรวมถึงชอตท้ายเกมที่ เมืองทองได้จุดโทษจากจังหวะที่ เอเลียส ดอเลาะ ไปเสียบใส่ ปรเมศย์ อาจวิไล และจังหวะทดเจ็บที่ แฮมิลตัน ปะทะกับนีโฮล์ม แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษ และไม่ไปดู วีเออาร์

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้สร้างความไม่พอใจให้กับคนทำทีม รวมถึงแฟนบอล และมันเกิดคำถามมากมาย สำหรับทั้งสองทีมที่ต้องการชัยชนะอย่างมาก ณ เวลานี้

คนทำทีมกับ ผู้ตัดสิน

แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ ที่เกิดความรู้สึกที่ว่า ผู้ตัดสิน ตัดสินพลาด ความผิดพลาดของเขานั้นยิ่งใหญ่เสมอ และยิ่งเมื่อส่งผลกระทบต่อผลการแข่งขัน และมันก็จะมีคำว่า คนทำทีมเขาลงทุนไปเท่าไหร่ ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้

สโมสรกับผู้ตัดสิน จึงเป็นเหมือนไม่เบื่อไม่เมาเสมอ เพราะหลายครั้ง มันอาจจะถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ ถูกใจแต่ไม่ถูกต้องและยิ่งมีการตัดสินที่เรามักจะได้ยินเสมอคือ ขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจของผู้ตัดสินที่เป็นคำกลางๆ ว่าสุดท้ายแล้วผู้ตัดสินสามารถกำหนดผลการแข่งขันได้

ความผิดพลาดกับมนุษย์เป็นของคู่กัน และยิ่งในโลกฟุตบอล

แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น มนุษย์ทุกคนสามารถก่อความผิดพลาดได้เสมอ แต่สำหรับคำนี้ คือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้ตัดสิน แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อผู้ตัดสินยังคงเป็นมนุษย์ แน่นอนว่ามันย่อมมีคำว่าความผิดพลาดเสมอ

นักฟุตบอลก็พลาดได้ โค้ชก็พลาดได้ สโมสรก็พลาดได้ แต่ความผิดพลาดของผู้ตัดสินนั้นยิ่งใหญ่กว่าเสมอ จนบางครั้งก็รู้สึกน่าเห็นใจ เพราะนักฟุตบอลพลาดทุกคนจะมองว่าใครก็พลาดกันได้เป็นบทเรียน โค้ชก็พลาดได้เป็นบทเรียน แต่ผู้ตัดสินไม่มีคำว่าบทเรียนเลย พลาดแล้วต้องโดนถล่ม โดนกดดัน และหลายคนก็มักจะคิดเสมอว่า ผู้ตัดสินลำเอียง โดนจ้างวานบ้างหรืออะไรก็แล้วแต่

แต่บางครั้งหากเราลดความถูกใจลง และลองเปลี่ยนมุมมองบ้างล่ะ ถ้าหากเราเป็นผู้ตัดสิน แน่นอนว่าเมื่อตัดสินอย่างใดอย่างหนึ่งลงไป มันต้องมีคนฝั่งหนึ่งถูกใจ อีกฝั่งไม่ถูกใจ เกิดขึ้นเสมอ ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าเห็นใจ เพราะต่อให้มันถูกต้องแต่มันไม่ถูกใจ เขาก็กลายเป็นคนที่ผิดได้ สุดท้าย ผู้ตัดสินก็เหมือนนักฟุตบอล ที่ควรได้รับความเห็นใจ และต้องยอมรับเมื่อเขาผิดพลาดโดยสุจริต หรือเขาตัดสินถูกต้องแล้วแต่แค่ไม่ถูกใจเรา

ผู้ตัดสินต่างประเทศก็ผิดพลาด พอผู้ตัดสินไทย ผิดพลาดทุกคนเองก็มองว่า ฟุตบอลไทยจะไม่พัฒนา แต่ถามว่า ฟุตบอลต่างประเทศหรือระดับโลก ผิดพลาดไหม มันก็ผิดพลาด เพราะฉะนั้น มันไม่เกี่ยวกับการฉุดมาตรฐานหรืออะไรทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญคือบทเรียน

ถอดแต่ละบทเรียน

แน่นอนการจะพัฒนาแต่ละอย่างนั้น สิ่งสำคัญคือเอาบทเรียน หรือข้อผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นแล้ว มาเรียนรู้ แน่นอน ว่านอกจาก ผู้ตัดสินแล้ว การท่าเรือ เองก็พัฒนาเช่นกัน เพราะเกมนี้จะเห็นได้ชัดว่า คุณนำ 2-0 แต่คุณปิดเกมไม่ได้ เกมนี้เห็นได้ชัดว่าลูกแรกมาจากตรงไหน ลูกสองเกิดอะไร และสมาธิไปไหนหมด

ผู้ตัดสินเองก็ต้องเรียนรู้ สโมสรก็ต้องเรียนรู้เหมือนกัน การโทษคนอื่นมันทำให้เราสบายกายสบายใจ โทษตัวเองแล้ว อาจจะไม่สบายใจและไม่สบายกาย แต่เกิดการพัฒนา

ฟุตบอลถ้ามันจะไปข้างหน้า มันก็ต้องพัฒนาด้วยกัน จะไปโยนความผิดให้ผู้ตัดสินทั้งหมดก็คงไม่ใช่