ใครจะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24 และทีมไหนจะได้สิทธิ์ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก และใครจะร่วงและรอดในฤดูกาลนี้ นี่คือเครื่องหมายคำถามชิ้นสำคัญจากการคำนวนของ ออพต้า และ ซูเปอร์ คอมพิวเตอร์
วิเคราะห์ พรีเมียร์ลีก แบบรวดเร็ว
เต็งแชมป์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับการคว้าแชมป์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน
เต็งท็อปโฟร์ : อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เต็งตกชั้น : ลูตัน ทาวน์, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ บอร์นมัธ
จากการคำนวนและประเมินของ ออพต้า และ ซูเปอร์ คอมพิวเตอร์ สำหรับพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24 กว่า 10,000 ครั้ง เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้น
โดยการคำนวนนั้น มีมากถึง 10 ทีมที่สามารถเป็นแชมป์ลีกได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่การคำนวนส่วนใหญ่จะชี้เป้าไปที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหนือทีมอื่นๆ อย่างไรก็ตาม เบรนท์ฟอร์ด ของ โธมัส แฟรงค์ ก็ฌป็นหนึ่งในทีมที่ถูกคำนวนว่ามีโอกาสเช่นเดียวกัน
เราต้องมาดูกันว่าจากการคำนวนกว่า 10,000 ครั้งของ ออพต้า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ กับพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023/24
ใครจะเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24?
การคำนวนกว่า 10,000 ครั้ง ที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์มากที่สุด โดยพวกเขามีเปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จมากถึง 90.2 เปอร์เซ็นต์ จากการคำนวน นั้นหมายว่า พวกเขาจะกลายเป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ลีกอังกฤษ ไปครองได้ 4 สมัยติดต่อกัน
จากการคำนวนกว่า 90/2 เปอร์เซ็นต์ โดย ออพต้า ซูเปอร์ คอมพิวเตอร์ หากเทียบกับ ลีกระดับท็อป 5 ของยุโรป ลีกอื่นๆ บาเยิร์น มิวนิค ยังมีโอกาสเป็นแชมป์บุนเดสลีกาเพียงแค่ 69.3 เปอร์เซ้นต์เท่านั้นนั้นหมายความพรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่คาดเดาได้ง่ายที่สุดเหนือลีกระดับท็อปยุโรป
อาร์เซนอล เป็นทีมที่ทำผลงานในพรีเมียร์ลีก ได้ดีที่สุดในรอบ 19 ปี ในฤดูกาลที่ผ่านมา หลังพวกขเาเก็บไปถึง 84 คะแนน แต่ก็ยังมีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เก็บไป 89 แต้ม ในการลุ้นแชมป์ มิเกล อาร์เตต้า คาดหวังว่าด้วยประสบการณ์ในการลุ้นแชมป์ที่มีมากขึ้น จะสร้างเรื่องราวที่แตกต่าง โดยเฉพาะการที่พวกเขาล้ม แมนซิตี้ คว้า คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ครั้งล่าสุด แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะจาก 12 ครั้งหลังสุด แชมป์ถาดการกุศลสามารถเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ปืนใหญ่ มีโอกาสคว้าแชมป์ลีกในปีนี้เพียงแค่ 4.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นจากการคำนวน เหนือกว่าลิเวอร์พูล ที่มีโอกาส 3.6 เปอร์เซ็นต์
หงส์แดงของเจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีก ที่สามารถเบียดแมนซิตี้ คว้าแชมป์ลีกมาครองได้ในช่วงหกปีหลัง แต่ฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และจบด้วยการเป็น อันดับ 5 และพลาดการได้ไปลุยฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาไม่ได้เล่นในรายการนี้ นับตั้งแต่ปี 2016/17 โดยพวกเขาเก็บไป 67 คะแนน ในฤดูกาลก่อน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015/16 และมีแต้มตามหลัง แมนซิตี้ ทีมแชมป์มากถึง 22 คะแนน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในฤดูกาลที่ผ่านมา ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก พวกเขาสามารถคว้าอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก และลีก คัพ มาครองและถือเป็นแชมป์แรกในรอบ 5 ปี โปรเจคต์ของเทน ฮาก และแมนฯยูไนเต็ด มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม จากการคำนวนของ ออพต้า ซูเปอร์ คอมพิวเตอร์ พวกเขามีโอกาสเพียงแค่ 1.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่จะเป็นแชมป์ลีก แต่ข่าวดีคือพวกเขาน่าจะมีแต้มที่สูงกว่าฤดูกาลที่ผ่านมา จากการคาดการณ์
โดยเปอร์เซ็นต์ แชมป์ยังมีทีมอย่าง นิวคาสเซิล 0.22 เปอร์เซ็นต์, เชลซี 0.13 เปอร์เซ็๋นต์, ไบร์ทตัน 0.08 เปอร์เซ็นต์, ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ 0.01 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ เบรนท์ฟอร์ดซึ่งพวกเขาต่างมีโอกาสเพียงครั้งเดียวจากการคำนวนเป็นหมื่นครั้งของ ออพต้า ซูเปอร์ คอมพิวเจตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สโมสร เหล่านี้ไม่ได้คาดการณ์ถึงการเป็นแชมป์ในฤดูกาล 2023/24
ใครจะจบสี่อันดับแรกของ พรีเมียร์ลีก?
จากข้อมูลที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเชื่อมโยงกับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก และมีโอกาสที่จะเกิดเซอร์ไพรส์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับ การเปลี่ยนแปลงสี่อันดับแรก
จากการคำนวน 10,000 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสหลุดท็อปโฟร์ เพียงแค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น พวกเขาไม่เคยจบอันดับต่ำกว่า 8 ซึ่งการคำนวนดังกล่าวเกิดขึ้นขากการที่เบรนท์ฟอร์ด จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วนอาร์เซนอล มีโอกาสจบอันดับ 2 ที่ 33.6 เปอร์เซ็นต์ เหนือกว่าทุกทีมในการคำนวน และมีโอกาสติดท็อปโฟร์ สูงถึง 79.9 เปอร์เซ็นต์
โดยการคำนวนอื่นๆ ลิเวอร์พูลมีโอกาสจบท็อปโฟร์ 76.8 เปอร์เซ็นต์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามมาที่ 63.2 เปอร์เซ็นต์
เชลซี มีฤดูกาลที่ย่ำแย่ในซีซั่น 2022/23 แต่ตอนนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ได้เข้ามาคุมทีมแล้ว หลังจากที่ห่างหายไปจากพรีเมียร์ลีกนานถึง 4 ปี นับตั้งแต่แยกทางกับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ แต่เขาก็ไม่เคยได้แชมป์รายการไหนเลย ในช่วงก่อนหน้านั้น แต่กลับได้งานที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โอกาสที่จะเป็นแชมป์ลีกแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยพวกเขามีโอกาสแค่ประมาณ 130 ครั้งจากการคำนวน 10,000 ครั้ง ในฤดูกาลปัจจุบัน ขณะเดียวกันการได้ไปแชมเปี้ยนส์ลีกก็ยังเป็นเรื่องยาก เพราะจากการคำนวนโอกาสที่พวกเขาจะจบท็อปโฟร์ มีเพียงแค่ 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และถูกคำนวนว่าจะจบอันดับ 6 ตามหลัง นิวคาสเซิล ที่มีเปอร์เซ็นต์ จบท็อปโฟร์ที่ 24.8 เปอร์เซ้นต์
ส่วนทีมของโรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ที่สร้างปรากฏการณ์ทำผลงานได้ดีกับ ไบร์ทตัน จนจบอันดับ 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา และได้ไปเล่น ยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้ ด้วยขุมกำลังของพวกเขาและต้องมีเกมบอลยุโรป กลางสัปดาห์ ต่อเนื่องกับเกมลีกในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้พวกเขาถูกคำนวนว่าจะจบท็อปโฟร์ได้เพียง 12.3 เปอร์เซ็นต์ และโอกาสจบท็อป 6 อยู่ที่ 35.3 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ของ อันเก้ ปอสเตโคกลู ที่เพิ่งได้แชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ชิพ กับ เซลติก และโยกมาทำงาน มีโอกาสเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ในการจบท็อปโฟร์ ที่ประมาณ 9.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการจบอันดับ 8 นั้นมีสูง
นอกจากนี้ยังมีเอฟเวอร์ตันที่ถูกคำนวนว่าจะจบท็อปโฟร์ได้ 5 ครั้งจากการคำนวนกว่า 10,000 ครั้ง แต่จะเป็นไปได้หรือที่ ฌอน ไดช์ จะพา เอฟเวอร์ตันไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก
ใครจะตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับทุกคน เพราะลูตัน ทาวน์ คือตัวเต็งที่จะตกชั้น จากการคำนวนของออพต้า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
โดยทีมน้องใหม่ที่ได้เลื่อนชั้นจากการเพลย์ออฟ มีโอกาสจบอันดับสุดท้าย มากถึง 28.1 เปอร์เซ็นต์ และ ตกชั้นมากถึง 62.3 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าทุกสโมสร ในพรีเมียร์ลีก แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องดีที่พวกเขาถูกมองเป็นทีมรองบ่อน
สิ่งสำคัญในตอนนี้ของลูตัน คือการที่จะหลีกเลี่ยงสถิติเป็นทีมที่เก็บแต้มในพรีเมียร์ลีกได้น้อยที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1991/92 โดยสถิติตอนนี้เป็นของดาร์บี เคาน์ตี้ ที่เคยทำไว้ที่ 11 แต้มในฤดูกาล 2007/08 อย่างไรก็ตามแต้มเฉลี่ยจากการคำนวน เชื่อว่าพวกเขาจะได้ประมาณ 34.2 แต้ม เหนือกว่า เซาแธมป์ตัน 25 แต้ม และ ลีดส์ ยูไนเต็ด 31 แต้ม ที่ตกชั้นไปในฤดูกาลก่อน
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา มีโอากสตกชั้นจากการคำนวนที่ 49 เปอร์เซ็นต์ เหนือกว่าบอร์นมัธ ที่ถูกคำนวนไว้ที่ 48.9 เปอร์เซ็นต์
สำหรับ บอร์นมัธ เพิ่งเอาตัวรอดมาได้จากฤดูกาลก่อน หลังแกรี โอนีล พาทีมจบอันดับ 15 และมีแต้มเหนือโซนแดง 5 คะแนน แต่ตอนนี้เขาก็ถูกปลด และทีมก็ไปดึง อันโดนี อิราโอล่า เข้ามาคุมทีมแทน โดยที่ผ่านมากุนซือชาวสแปนิช ก็ทำผลงานได้โดดเด่นกับ ราโย บาเยกาโน ตลอดสามปี ทั้งการพาทีมเลื่อนชั้น จบอันดับ 12 ในฤดูกาลแรกแบบเหนือกว่าคาดหมายและเขาก็ต้องสร้างปรากฏการณ์ให้ได้อีกครั้ง
นั่นหมายความว่า เบิร์นลีย์ น้องใหม่อีกทีมจากแชมเปี้ยนชิพ มีโอกาสที่จะรอดจากการตกชั้น แม้พวกเขาจะออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่ จากการเจอกับ แมนซิตี้ แชมป์เก่า ในเกมแรก อย่างไรก็ตาม พวกเขามีโอกาสตกชั้นเพียงแค่ 33.2 เปอร์เซ็นต์ จากากรคำนวน และยังน้อยกว่า น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 33.8 เปอร์เซ็นต์ และ เอฟเวอร์ตัน 34.4 เปอร์เซ็นต์
ฤดูกาลก่อน เราได้เห็นสามทีมน้องใหม่รอดพ้นจากการตกชั้น และมันเกิดขึ้นเพียงแค่ 4 ครั้งเท่านั้น (ฤดูกาล 2001/02, 2011/12, และ 2017/18) ซึ่งจากการคำนวนเมื่อฤดูกาลก่อน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์, บอร์นมัธ และ ฟูแล่ม มีโอกาสตกชั้นสูงด้วยเมื่อปีที่ผ่านมา และปาฏิหารย์สามารถเกิดขึ้นได้
โดยออพต้า ได้คำนวนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มีดังนี้
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต้มเฉลี่ย 88.81 คะแนน
- อาร์เซนอล แต้มเฉลี่ย 72.23 คะแนน
- ลิเวอร์พูล แต้มเฉลี่ย 71.47 คะแนน
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต้มเฉลี่ย 68.49 คะแนน
- นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แต้มเฉลี่ย 61.23 คะแนน
- เชลซี แต้มเฉลี่ย 58.90 คะแนน
- ไบร์ทตัน แต้มเฉลี่ย 57.51 คะแนน
- ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ แต้มเฉลี่ย 56.20 คะแนน
- แอสตัน วิลล่า แต้มเฉลี่ย 55.38 คะแนน
- เบรนท์ฟอร์ด แต้มเฉลี่ย 53.20 คะแนน
- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต้มเฉลี่ย 51.45 คะแนน
- คริสตัล พาเลซ แต้มเฉลี่ย 47.40 คะแนน
- ฟูแล่ม แต้มเฉลี่ย 46.18 คะแนน
- วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แต้มเฉลี่ย 43.45 คะแนน
- เบิร์นลีย์ แต้มเฉลี่ย 39.39 คะแนน
- น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แต้มเฉลี่ย 39.34 คะแนน
- เอฟเวอร์ตัน แต้มเฉลี่ย 39.14 คะแนน
- บอร์นมัธ แต้มเฉลี่ย 36.52 คะแนน
- เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต้มเฉลี่ย 36.26 คะแนน
- ลูตัน ทาวน์ แต้มเฉลี่ย 34.19 คะแนน