ได้มีการแถลงจัดตั้ง ซูเปอร์ ลีก ขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วโดยมีสโมสรเข้าร่วมเบื้องต้น 12 ทีม และมี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด นั่งควบตำแหน่งประธานในกลุ่มนี้
ถือว่าเป็นข่าวร้อนในรอบวันสำหรับเรื่องการจัดตั้งลีกแยกของทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป จนนำมาซึ่งกระแสต่อต้านทั้งจากลีกในประเทศ, สมาคมระดับทวีป รวมไปถึงกลุ่มแฟนบอลสวนใหญ่ของทีมที่เข้าร่วม
ล่าสุดกลุ่ม ซูเปอร์ ลีก ดังกล่าวก็มีการแถลงอย่างเป็นทางการในเรื่องการจัดตั้งครั้งนี้แล้ว
“ในวันนี้สโมสรฟุตบอลชั้นนำ 12 ทีมได้รวมตัวกันเพื่อแถลงการณ์ข้อตกลงในการจัดตั้งรายการแข่งขันกลางสัปดาห์ใหม่ ภายใต้ชื่อ “ซูเปอร์ ลีก” ภายใต้การกำกับดูแลโดยกองทุนของผู้ก่อตั้งเอง”
“เอซี มิลาน, อาร์เซนอล, แอตเลติโก มาดริด, เชลซี, บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ จะเข้าร่วมในฐานะสโมสรก่อตั้งและคาดว่าจะมีอีก 3 สโมสรที่จะเข้าร่วมก่อนซีซั่นแรก ซึ่งมีความตั้งใจว่าจะมีการเริ่มแข่งขันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“ต่อไปจากนี้ทางสโมสรผู้ก่อตั้งคาดหวังว่าจะได้หารือร่วมกับยูฟ่า และฟีฟ่า เพื่อทำงานร่วมกันสำหรับการนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของของลีกใหม่นี้ และวงการฟุตบอลโดยรวม”
ประธานของ ซูเปอร์ ลีก นอกจาก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ แล้วยังมีรองประธานอีก 2 คนคือ โจเอล เกลเซอร์ ประธานสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อันเดรีย อันเญลลี่ ประธานสโมสร ยูเวนตุส ที่ทำการลาออกจากตำแหน่งประธานสมาคมสโมสรฟุตบอลยุโรป ในเวลาเดียวกัน
นอกจากนั้นยังมีการเปิดเว็บไซด์ของพวกเขาอย่างเป็นทางการ ผ่านโดเมนภายใต้ชื่อว่า https://thesuperleague.com/ ซึ่งได้ระบุรายละเอียดของการแข่งขันเบื้องต้นไว้ว่า
– การแข่งขันนี้จะมีขึ้นระหว่าง 20 สโมสรชั้นนำ ประกอบด้วยสโมสรผู้ก่อตั้งทั้ง 15 ทีมและอีก 5 ทีมมาจากการคัดเลือกประจำปี
– จะมีการแบ่งการแข่งขันเป็น 2 กลุ่มๆละ 10 ทีม แข่งขันแบบเหย้า-เยือน เพื่อหา 8 ทีมเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์และแข่งขันแบบเหย้า-เยือน ไปจนถึงการแข่งขันตัดสินนัดสุดท้ายเพื่อหาแชมเปี้ยน เป็นเวลา 4 สัปดาห์จนจบซีซั่น
– การแข่งขันจะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ และทุกสโมสรยังคงลงแข่งขันในลีกภายในประเทศตัวเอง
– เงินรางวัลที่แจกจ่ายร่วมกันจะเพิ่มขึ้นตามรายได้ของการแข่งขัน และคาดว่าจะมากกว่า 10,000 ล้านยูโร ในช่วงเริ่มต้นข้อตกลงของกลุ่มก่อตั้ง โดยเงินรางวัลร่วมกันนี้จะมีความโปร่งใสและมีการรายงานต่อสาธารณะเสมอ
การแข่งขันดังกล่าวจะเริ่มต้นพร้อมช่วงเปิดฤดูกาลของหลายลีกในยุโรป ช่วงเดือนสิงหาคม ไปจนถึงนัดสุดท้ายในเดือนพฤษภาคม และคาบเกี่ยวไปพร้อมกับการแข่งขันรายการยุโรปของยูฟ่า แต่ยังไม่กำหนดการแน่ชัดว่าจะเริ่มแข่งขันในปีใด