ไฮไลต์การแข่งขันพรีเมียร์ลีกเดินทางถึงการแข่งขันในสัปดาห์ที่11 ซึ่งมีเกมที่น่าสนใจหลายคู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกลอนดอนดาบี้ระหว่างท็อตแน่มฮอตสเปอร์ส vs อาร์เซนอล รวมไปถึงลิเวอร์พูลที่ยังคงมีปัญหาเกมรับจะต้องเปิดแอนฟิลด์รับการเยือนของวูล์ฟแฮมตัน
ท็อตแน่มฮอตสเปอร์ส 2 : 0 อาร์เซนอล
เป็นเกมที่อาร์เซนอลบุกมาเปิดเกมบุกใส่สเปอร์สแบบผิดคาด นาทีที่10โธมัส ปาร์เตได้สอดมายิงหน้ากรอบเขตโทษแต่ก็หลุดกรอบออกไป แต่เจ้าบ้านอาศัยเกมโต้กลับที่มีประสิทธิภาพพลิกนำอย่างหน้าตาเฉยจากจังหวะโต้กลับเร็ว แฮรี่ เคนได้บอลที่กลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้ซน-ฮึง-มินลากบอลเข้ามาปั่นเสียบเสาไกลเป็น1-0 หลังจากนั้นปืนใหญ่พยายามบุกใส่อย่างหนักแต่ก็ไม่มีจังหวะได้เสียวก่อนจะมาโดนทีเด็ดจากลูกโต้กลับทำพิษอีกครั้งคราวนี้เป็นซน-ฮึง-มินลากบอลมาลุ้นกรอบเขตโทษก่อนแตะหลอกให้แฮรี่ เคนเติมมายิงยัดเสาแรกเสียบคานเข้าไปเป็นประตูที่สอง ครึ่งหลังทีมเยือนมีโอกาสหลายครั้งแต่ก็ทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาทำให้จบเกมไก่เดือยทองชนะไปสบายๆ 2-0
ลิเวอร์พูล 4:0 วูล์ฟแฮมตัน วันเดอร์เรอร์
เริ่มเกมทีมเยือนได้ทักทายก่อนนาที16 แดเนียล โพรเดนซ์ได้ลองตักบอลโด่งไปลุ้นเสาไกลแต่คีวิน เคลเลเฮอร์นายทวารดาวรุ่งก็ยังทะยานปัดข้ามคานได้อย่างหวุดหวิด แต่แล้วนาที23หงส์ก็ออกนำอย่างโชคช่วย เมื่อจอร์แดน เฮเดอร์สันวางบอลยาวจากกลางสนามแต่คอร์เนอร์ โคดี้กะจังหวะบอลพลาดกลายเป็นไปตกใส่เท้าซาล่า ทำให้ดาวยิงอิยิปต์ปาดยิงง่ายๆเข้าไปตุงตาข่ายเป็น1-0 ครึ่งหลังวูลฺฟพยายามเปิดเกมแรกเปิดช่องให้ลิเวอร์พูลใช้จังหวะโต้กลับหนีห่างเป็น2-0 เมื่อเฮนโด้คนเดิมตัดบอลโด่งมาให้จอร์จินโญ่ ไวนัลดุมลากบอลเข้ามายิงง่ายๆหน้ากรอบเขตโทษเสียบตาข่าย นาที67 ลิเวอร์พูลเลือกเล่นสั้นจากลูกเตะมุมให้ซาล่าครอสไปให้โจเอล มาติปทะยานขวิดเข้าไปเป็น3-0 ก่อนที่นาที77 เทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลเปิดเรียดไปเสาไกลที่มีมาเน่คอยอยู่ แม้เนลสัน เซเมโด้ผู้เล่นวูล์ฟจะพยายามเข้าสกัดแต่ก็กลายเป็นผิดเหลี่ยมโดนบอลไหลเข้าประตูตัวเอง ทำให้ครบ90นาทีหงส์แดงยำใหญ่ใส่วูล์ฟไปขาดลอย 4-0
เวสต์แฮม 1 : 3 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
นาทีที่8เจ้าบ้านอดได้ประตูอย่างน่าเสียดายเมื่อจาร์รอด โบเว่นหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเสียบเสาไกลเข้าไปแต่ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน อย่างไรก็ตามนาที38 เวสต์แฮมก็ออกนำจนเมื่อปาโบล ฟอร์นัลเปิดเตะมุมมาให้โธมัส ตูแช็คโขกชงบอลมาให้ดีแคน ไรซ์เข้าชาร์จที่เสาไกลเข้าไปตุงตาข่ายเป็น1-0 ครึ่งหลังแมนยูฯพยายามบุกใส่อย่างหนักและมาตามตีเสมอได้จากลูกยิงไกลของปอล ป็อกบาในนาที 64 ผีแดงได้ใจจนพลิกนำ2-1ในอีกสามนาทีถัดมา เมื่ออเล็ก เตเลซเปิดมาจากฝั่งซ้ายมาให้เมสัน กรีนวู๊ดจับบอลก่อนพลิกตัวยิงเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างงดงาม นาที77 ฆวน มาต้าตาไวไหลทะลุช่องให้มาร์คัช แรชฟอร์ดฉีกกับดักล้ำหน้าเข้าไปชิพบอลข้ามลูคัส ฟาเบียนสกี้นายด่านขุนค้อนเข้าไปเป็นประตูที่สาม จบเกมอสูรแดงบุกมาเก็บชัยชนะได้3-1
