2 กูรูฟุตบอลต่างประเทศของสยามสปอร์ตต่างฟันธงว่า ลีกระดับยุโรปไม่เคยมีการแกะปากที่คณะพิจารณาวินัยฯ จะใช้กับ ธีราทร บุญมาทัน ในการลงโทษแบนแน่นอน นำโดย “ลิตเติ้ลโจ” สุรศักดิ์ มากทวี ผู้สื่อข่าวประจำอังกฤษ เผย มีช่วงที่ เวย์น รูนีย์ ติดโทษแบน 2 นัดจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หลังจากดาวยิงแมนฯยูฯ ระเบิดอารมณ์จากการทำแฮตทริกบุกไปชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-2 โดยตะโกนด้วยคำไม่สุภาพใส่แฟนบอล “ขุนค้อน” ผ่านกล้องถ่ายทอดสด ซึ่งถือว่าเป็นความผิดแต่ FA จะใช้สิ่งที่เป็น OFFICIAL มากกว่าการใช้คลิปจากแฟนบอลมาลงโทษ ส่วน “เจมส์ ลาลีกา” อาวุธ จิวกรานนท์ เหยี่ยวข่าวในสเปน สอบถามเพื่อนๆนักข่าวด้วยกันก็ว่าทางสหพันธ์ฟุตบอลสเปนก็ไม่มีข้อมูลว่าเคยเกิดเรื่องนี้ขึ้น เว้นแต่นักเตะด่ากันเอง
จากกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สรุปผลการประชุม ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 23-24 ก.ค ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเคสต์ของ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายตัวเก่งของ เอสซีจี เมืองทองฯ วิ่งไปแสดงอาการดีใจต่อหน้ากองเชียร์บุรีรัมย์ฯ หลังจากยิงประตูได้ และยังหันมาตะโกนใส่แฟนบอล “ปราสาทสายฟ้า” โดยคณะกรรมการฯพิจารณาว่ายังต้องรอผู้เชี่ยวชาญถอดภาษาปาก ซึ่งจะใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ด้วยการส่งเทป ให้ล่ามภาษาปากแปล ถ้าเป็นคำด่าจะเป็นความผิดตามข้อบังคับยั่วยุ ซึ่งต้องรอหลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์อีกครั้ง ทั้งนี้หากมีความผิดจริงจะถือว่าผิดตามข้อบังคับ 1.9 มีโทษแบน ส่วนเรื่องอาการสะใจผ่านกล้องเป็นความรู้สึกส่วนตัวที่สามารถกระทำได้ ไม่มีความผิดแต่อย่างใด
ล่าสุดกูรูลูกหนังในลีกต่างประเทศอย่างคนแรกคือ “ลิตเติ้ลโจ” สุรศักดิ์ มากทวี ผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ตประจำประเทศอังกฤษ ที่ประจำการอยู่ในแดนผู้ดี พร้อมกับท่องวิทยายุทธลูกหนังในยุโรปมาแล้วเกือบ 20 ปี ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า
“ผมนึกไม่ออกเลยจริงๆว่ามีเคสต์ที่นักฟุตบอลไปด่าแฟนบอล แล้วมีการแกะภาษาปากหรือไม่ นอกจากมีการแสดงท่าทางยั่วยุจนกล้องจับได้ อย่างกรณีของ เอริค คันโตน่า ถูกแบน 9 เดือน พร้อมกับต้องทำงานชดใช้สังคม 120 ชั่วโมง หลังกระโดดถีบยอดอก แมทธิว ซิมมอนส์ แฟนบอล คริสตัล พาเลซ ที่สนาม เซลเฮิร์สต์ ปาร์ก แต่เคสต์นี้เป็นเพราะกล้องได้จับให้เห็นผ่านหน้าจออยู่แล้ว”
“หรือจะมีที่คล้ายคลึงกันก็คือ เวย์น รูนีย์ ที่ทำแฮตทริกได้ใส่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อ 5 ปีก่อน พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า 3 คะแนนกลับออกมาจาก อัพตัน พาร์ค ด้วยผลงานชนะ 4-2 นั้น ช่วงที่เขายิงจุดโทษแล้วส่งบอลเข้าประตูไป ได้วิ่งมาดีใจกล้องถ่ายทอดสดพร้อมกับพูดบางอย่างออกมาที่ชัดเจนและมีเสียงตามมา”
“จากนั้น FA หรือ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ได้ลงโทษแบน 2 นัด ทำให้ เวย์น รูนีย์ ติดโทษพักแข้งในเกมลีกกับ ฟูแล่ม สัปดาห์ต่อไป รวมถึงศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก แต่ไม่มีรายงานว่ามีการปรับเงินด้วยหรือไม่ แต่กรณีสามารถทำได้เพราะที่อังกฤษเขาจะยึดหลักใช้กล้องถ่ายทอดในการเอาผิดนักเตะ ไม่มีที่จะนำคลิปวิดิโอของแฟนบอลมาใช้ในการแกะคำพูดหรืออย่างใด”
ด้าน “เจมส์ ลาลีกา” อาวุธ จิวกรานนท์ ผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ตประจำประเทศสเปน ได้ให้ความเห็นเรื่องเกี่ยวกับการอ่านปากนักฟุตบอลที่ถูกกล่าวหาว่าใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับแฟนบอลมาลงโทษย้อนหลังว่า ในกรณีการอ่านปากนักฟุตบอลแล้วมาลงโทษย้อนหลังสำหรับฟุตบอลสเปนนั้น เท่าที่จำได้ไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแต่อย่างใด สอบถามเพื่อนๆนักข่าวด้วยกันก็ว่าทางสหพันธ์ฟุตบอลสเปน(RFEF )ยังไม่เคยลงโทษเคสนี้ แม้รู้ดีว่าบางครั้งนักเตะหรือแฟนบอลต่างก็ด่าทอซึ่งกันและกัน จะมีที่ใกล้เคียงก็อย่างในเคสของ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มิดฟิลด์บาร์เซโลน่าที่ถูกทางยูฟ่าหรือสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปสั่งสอบสวนจากกรณีที่เชื่อว่าอาจด่าหรือใช้คำพูดเหยียดผิว มาร์เซโล่ แบ็กซ้าย เรอัล มาดริด ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 27เมษายน 2011 โดยทางยูฟ่า ใช้วีดีโอในเกมนั้นเป็นหนึ่งในหลักฐานประกอบการไต่สวน ซึ่งมีการจับภาพได้ว่า บุสเก็ตส์ พยายามใช้มือป้องปากและพูดอะไรบางอย่างกับ มาร์เซโล่ หากแต่สุดท้ายแล้วทาง ยูฟ่า ตัดสินให้มิดฟิลด์บาร์ซ่าพ้นข้อกล่าวหาเนื่องจากหลักฐานไม่ชัดเจนว่ากับสองคำระหว่าง “mono mono” ซึ่งแปลว่า ลิง กับ “mucho morro” (ประสาทเสียมากไป) ซึ่งกองกลางตัวเก่งบาร์ซ่าอ้างว่าเขาพูดคำหลังซึ่งมีการออกเสียงคล้ายกันมาก
อย่างไรก็ดีกับเคสนี้ประเด็นสำคัญนั้นอยู่ที่มันเป็นเรื่องของการเหยียดผิวซึ่ง ยูฟ่า เข้มงวดมาก หาใช่เน้นไปที่คำหยาบคายที่ บุสเก็ตส์ พูดออกมาแต่อย่างใด ทั้งนี้การอ่านปากในฟุตบอลสเปนแม้ยังเกิดขึ้นหลายครั้ง หากแต่ส่วนใหญ่เป็นทางสื่อโทรทัศน์ที่นำเสนอ ที่ถึงขั้นมีการลงโทษนักเตะนั้นก็ยังไม่อาจถือได้ว่าชัดเจน ตัวอย่างเช่นเคสของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อปี 2014 ในเกมลา ลีกา นัดที่ 22 กับ แอธ.บิลเบา เกมนัดนั้น โรนัลโด้ ถูกใบแดงไล่ออกจากการตบหน้า การ์โลส กูร์เปกี และ อันเดร์ อิตูราสเป สองผู้เล่นแอธ.บิลเบา แต่ขณะที่ดาวยิงโปรตุเกสกำลังเดินออกจากสนามเจ้าตัวทำท่าตบหน้าตัวเองเบาๆและหันไปทาง อายซ่า กาเมซ ผู้ตัดสิน ซึ่งในสเปนเป็นการแสดงความหมายเชิงสัญลักษณ์ว่า “ไร้ยางอาย” ซึ่งจังหวะต่อจากนั้นกล้องทีวีได้จับภาพจนมีการอ่านปาก CR7 ว่าเขาพูด “cara dura” ซึ่งแปลว่า “ไร้ยางอาย”
บทสรุปของเหตุการณ์ครั้งนั้น โรนัลโด้ ถูกแบน 2 เกม จากการแสดงท่าทีไม่เคารพต่อผู้ตัดสิน หากแต่ไม่ได้มีการพูดถึงการอ่านปากจึงยังค่อนข้างคลุมเครือว่าตกลงแล้วทางสหพันธ์ฯนั้นใช้วิธีการอ่านปากนักเตะแล้วนำมาลงโทษจริงๆหรือไม่ จากคำสัมภาษณ์ของ 2 ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของสยามสปอร์ต
อย่างไรก็ตามการอ่านปากเคยเกิดขึ้นย้อนกลับไป 4 ปีที่แล้ว เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษคู่ระหว่าง ควีนสปาร์ก เรนเจอร์ส พบ เชลซี เกิดเหตุวุ่นวายหลังเกม จากกรณีที่ แอนทอน เฟอร์ดินานด์ ถูก จอห์น เทอร์รี กองหลังของเชลซี พูดจาเหยียดผิวใส่ในเกมนัดดังกล่าว ส่งผลให้เรื่องดังกล่าวถูกนำมาพิจารณาในชั้นศาล ซึ่ง แอนทอน เฟอร์ดินานด์ ได้เอาพยานผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านปากมาด้วย เพราะในประเทศอังกฤษการเหยียดผิวถือเป็นคดีอาญา และในช่วงที่ดูจากเทปแล้วผู้เชี่ยวชาญได้บอกว่าตามพฤติกรรมกับคำพูดที่ออกมาแบบนี้ของ จอห์น เทอร์รี่ สามารถพูดได้ 4 คำ และไม่ชัดเจนว่าเหยียดผิวหรือไม่ ทำให้ศาลสั่งยกฟ้องเพราะถือว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
เพิ่มเติม : https://goo.gl/LXgtc6
เนื้อข่าว : siamsport
ภาพ : กิตติ ทัพมาลัย
