หากพูดถึงทีมที่กำลังมีผลงานที่ดีในศึก โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 แน่นอนว่า สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด คือหนึ่งในนั้น และหนึ่งในบุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังคงหนีไม่พ้น ไอล์ตัน ซิลวา เฮดโค้ชของทีม
ด้วยผลงานในสนามเช่นนี้ หลายคนอาจไม่เชื่อว่า เขาเพิ่งจะมาคุมทีมในไทยได้เพียงราว 4 เดือนเท่านั้น แถมจุดเริ่มต้นยังเป็นไปอย่างฉุกละหุกไม่น้อย แต่ไอล์ตันสามารถนำทีมลบทุกเสียงวิจารณ์ได้อย่างไร?
Q : ช่วยเล่าให้ฟังถึงการมาทำงานที่ประเทศไทยหน่อย นี่เป็นงานแรกที่คุณได้ออกมาทำงานในต่างประเทศหรือเปล่า? และเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณได้รับการแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ช สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
ไอล์ตัน : จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่งานคุมทีมนอกประเทศบราซิลครั้งแรกของผมนะ เพราะก่อนหน้านี้เคยทำงานกับทีมใน เบลเยียม และ สเปน มาแล้ว ส่วนการมาทำงานในประเทศไทย เกิดขึ้นได้เพราะ โชเซ่ อัลเวส บอร์จีส (อดีตกุนซือ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด) ทาบทามผมให้มาเป็นผู้ช่วยของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ทำให้ผมเข้ามารับหน้าที่เฮดโค้ชในตอนนี้
Q : ตอนที่ได้รับการติดต่อจากเมืองไทย คุณรู้เรื่องอะไรบ้างเกี่ยวกับฟุตบอลของที่นี่?
ไอล์ตัน : ตอนแรกก็ไม่ค่อยมากนักครับ แต่หลังจากอยู่มา 4 เดือน ก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎระเบียบบางอย่างที่ต่างจากในบ้านของผม
Q : การเริ่มต้นในฐานะเฮดโค้ชดูจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เมื่อเชียงรายไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ เจอกระแสวิจารณ์อย่างไรบ้าง? รู้สึกวิตกบ้างหรือไม่?
ไอล์ตัน : อันที่จริงผมคิดว่าวันนั้นที่ฮิโรชิม่า (เกมรอบเพลย์ออฟ) เรามีเกมที่ดีนะ เราเจอกับทีมที่แข็งแกร่ง แถมอากาศก็ไม่ใช่อย่างที่คุ้นเคย ผู้เล่นของเราทุกคนคือนักรบ สู้อย่างสุดใจ แต่สุดท้ายเราก็ไปแพ้ในการดวลจุดโทษ ผมคิดว่าแฟนบอลชาวไทยน่าจะได้เห็นถึงการเล่นฟุตบอลที่เรานำเสนอที่ญี่ปุ่นวันนั้น แต่ก็ยอมรับนะว่า ตอนที่ทุกคนคิดว่าเราจะโดนถล่ม 3-4 ลูก ผมนี่รู้สึกกังวลขึ้นมา เลยพยายามทุกอย่างที่จะทำให้ทีมดีขึ้นอย่างสุดความสามารถเลย
Q : หลังจากเกมนั้น คุณพูดกับลูกทีมและปรับเปลี่ยนสิ่งใดบ้างถึงทำให้ผลงานของทีมดีขึ้น จนขึ้นมาอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์?
ไอล์ตัน : สิ่งที่ผมพูดกับลูกทีมหลังเกม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก็คือ ‘ถ้าเล่นได้อย่างในเกมนี้ พวกเราก็มีโอกาสคว้าแชมป์ลีก’ จะว่าไป เกมดังกล่าวมันก็ทำให้เราทุกคนรู้ว่าควรจะเล่นอย่างไร ถึงทำให้ผลงานในลีกดีอย่างที่เห็นแหละนะ
Q : ฟุตบอลไทยกับบราซิลแตกต่างกันอย่างไร?
ไอล์ตัน : มันมีความแตกต่างอยู่พอสมควรเลยนะ บราซิลคือประเทศที่ถูกยกให้เป็นดินแดนแห่งฟุตบอลตัวพ่อ นักเตะที่ยิ่งใหญ่มากมายล้วนเกิดที่นี่ ไม่เพียงเท่านั้น นักเตะบราซิลยังมีเทคนิคดี และมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เกิดความแตกต่างที่ใหญ่หลวง
Q : นักเตะไทยเมื่อเทียบกับนักเตะบราซิล แตกต่างกันอย่างไร และมีสิ่งใดจากบราซิลที่สามารถนำมาปรับใช้กับที่นี่ได้?
ไอล์ตัน : ที่บราซิล สิ่งแรกที่เด็กผู้ชายได้เป็นของขวัญหลังแรกเกิดก็คือ ลูกบอล และจากนั้น เด็กๆ เขาก็ไปเล่นฟุตบอลทุกที่ ข้างถนน, ในสนาม ฯลฯ ซึ่งทำให้ผู้เล่นมีเทคนิคและทักษะที่ดีมาก ตรงนี้แหละคือสาเหตุที่ทำให้นักเตะบราซิลสามารถเล่นที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ ซึ่งแน่นอน รวมถึงที่ประเทศไทยด้วย
Q : ทีมของคุณใช้งานผู้เล่นต่างชาตินอกเอเชียเป็นชาวบราซิลเกือบทั้งหมด เรื่องดังกล่าวช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้นหรือไม่?
ไอล์ตัน : การมีนักเตะบราซิลถึง 3 คนในทีมช่วยผมได้มากเลย เพราะพวกเขารู้ดีอยู่แล้วถึงการทำงานในรูปแบบของชาวบราซิลแบบผม แถมยังไม่มีปัญหาเรื่องกำแพงภาษาอีกด้วย
Q : วัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างไทยกับบราซิลทำให้คุณต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง?
ไอล์ตัน : ผมคิดว่าชาวบราซิลมักจะมีทักษะการเอาตัวรอดในสถานการณ์ยากลำบากที่ดีนะ และมันก็ดูจะใช้ได้ผลดีสำหรับที่ไทย ซึ่งต้องเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เสมอ แต่จะว่าไปแล้วเรื่องที่ว่าก็เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ซึ่งผมก็กำลังเรียนรู้อยู่
Q : ถึงตอนนี้คุณคิดว่าสามารถลบคำสบประมาทจากผู้คนที่สงสัยคุณได้แล้วรึยัง?
ไอล์ตัน : ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี และผู้เล่นก็กำลังมีความเชื่อมั่น ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่สำคัญกว่าการจะบอกว่าพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นคิดผิดนะ เราต้องสู้ให้ถึงที่สุดก่อน แล้วผลการแข่งขันจะตามมาเอง
Q : วางเป้าหมายของสโมสรและส่วนตัวในฤดูกาลนี้และอนาคตอย่างไรบ้าง?
ไอล์ตัน : สิ่งที่ผมสนใจคือการทำวันนี้ให้ดีที่สุดกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มากกว่าครับ เราต้องทำผลงานให้เกาะกลุ่มลุ้นแชมป์ไปให้ได้ตลอดเสียก่อน ส่วนเรื่องอนาคตจะเป็นอย่างไร ถ้ามันต้องเกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้นเองครับ
ขอขอบคุณ : Thai League