อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เชื่อว่าทีมน่าจะกดดันน้อยที่สุดในศึกชิงแชมป์เอเชียหนนี้ และหวังว่าเด็กจะมีความมุ่งมั่นและสร้างโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ
โดยทัพช้างศึก U19 ต้องอยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ ญี่ปุ่น แชมป์เก่า, อิรัก อดีตแชมป์ 5 สมัยในรุ่นนี้ และ เกาหลีเหนือ อดีตแชมป์ 3 สมัย
“การที่ผลจับสลากออกมาแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย และเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้เจอกับทีมที่มีคุณภาพสูง” อิสสระ ศรีทะโร กล่าวเริ่ม
“แต่ผมมองว่า ทุกทีมต่างมีโอกาส มันขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน ซึ่งตอนนี้เราต้องพยายามหาผู้เล่นที่สามารถต่อกรทีมระดับเอเชียให้ได้ครบทั้ง 23 คน”
“เราพยายามดูนักเตะก่อนในรายการชิงแชมป์อาเซียน ซึ่งจะเป็นเวทีชั้นดีในการเพิ่มประสบการณ์ และมองหาข้อบกพร่อง แต่ต้องมองว่า อาเซียนกับเอเชีย การเล่นน่าจะแตกต่างกัน เพราะในเอเชีย เราต้องเล่นอย่างรัดกุม และเราไม่สามารถก่อความผิดพลาดได้เลย เราก็ต้องพยายามพัฒนานักเตะในช่วงของการเก็บตัวฝึกซ้อมให้ได้มากที่สุด”
“สี่ทีมในกลุ่มบี ผมมองว่าเรากดดันน้อยที่สุด ผมเชื่อว่าหากเราลงเล่นโดยปราศจากความกดดัน พร้อมกับมีความมุ่งมั่น น้องๆตอบสนองได้ดี เราก็มีโอกาส เวทีระดับเอเชีย มันตัดสินกันที่ว่าใครผิดพลาดน้อยกว่ากัน”
“ทั้งสามทีม ญี่ปุ่น เขามีจุดแข็งเรื่องทีมเวิร์ค การสร้างเกมจากแนวรับทำได้ดี แต่การจบสกอร์ยังมีปัญหา เพราะฉะนั้นการเจอกับเขา เราต้องกระชับพื้นที่ให้ได้ และที่สำคัญต้องมองหาช่องในการโต้กลับให้ดี เราเคยเจอกับญี่ปุ่นมาแล้วในรอบคัดเลือก ผมเชื่อว่าเรามีโอกาส หากเราไม่กลัว แต่ตอนนี้เราไม่รู้ว่าเขามีพัฒนาการแค่ไหนต้องศึกษากันต่อไป”
“ส่วนอิรัก เราไม่มีข้อมูล แต่ที่ผ่านมา จุดเด่นของทีมจากตะวันออกกลางคือเรื่องความฟิต เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามทำให้นักเตะของเราฟิตกว่าเขา ส่วนเกาหลีเหนือ พวกเขาเป็นสไตล์วิ่งสู้ฟัด เราก็ต้องเสียบอลให้น้อยที่สุด ต่อบอลให้แม่นยำ ถ้าเรามีความอดทน เราก็จะมีโอกาส”
โดยนักฟุตบอลชายทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี มีโปรแกรมทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ในช่วงระหว่างวันที่ 2-14 กรกฎาคม 2561 และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ระหว่างวันที่ 18 ตุลาคม – 4 พฤษจิกายน 2561