โคล้ด มาเกเลเล่ ตำนานมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส ชี้แจงเขาโดนผู้บริหารสโมสรแทรกแซงการคุมทีม คือเหตุผลให้ลาออกจากงานกุนซือ แอสเตราส ตริโปลิส บนลีกสูงสุดกรีซ หลังทำหน้าที่ได้แค่ 3 นัด
กระทั่ง ปลายปีก่อน โคล้ด มาเกเลเล่ ยุติการเป็นที่ปรึกษาเทคนิคให้สโมสร “สิงห์บูล” เชลซี ต้นสังกัดเก่า กระทั่งเดือนกันยายนที่ผ่านมา เข้ารับตำแหน่งกุนซือ แอสเตราส ด้วยสัญญา 1 ปี พร้อมอ็อปชั่นขยายอีก 12 เดือน
นับเป็นการกลับสู่งานคุมทีมแบบเต็มตัวครั้งแรกของ โคล้ด มาเกเลเล่ ในรอบ 5 ปี โดยก่อนหน้านี้ เคยกุมบังเหียนให้ทั้ง ยูเพน ลีกเบลเยียม และ บาสเตีย ที่ประเทศบ้านเกิด
แอสเตราส ภายใต้ มาเกเลเล่ เริ่มต้นในลีกเสมอ 1-1 สองนัดติด กระทั่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเดิมชัยชนะครั้งแรกเหนือ เอเธนส์ คาลลิเธีย ด้วยสกอร์ 3-1
ภายหลังคว้าสามแต้มแรก มาเกเลเล่ ในวัย 51 ตัดสินใจแยกทางกับ แอสเตราส จากนั้นไม่นาน ให้สัมภาษณ์เผยเบื้องหลัง:
“ผมชอบงานนี้มาก แต่ผมยอมรับไม่ได้ เมื่อมีผู้คนพยายามแทรกแซง และบอกว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้าง” โคล้ด มาเกเลเล่ เริ่มกล่าว
“สโมสรสัญญาว่าจะให้อำนาจผมคุมทีมแบบเต็มที่ ผมควรเป็นคนตัดสินใจว่านักเตะคนไหนจะได้ลงเล่น”
“เกมล่าสุดที่ลงแข่ง สโมสรยืนยันว่าผู้เล่นคนสำคัญของเราอย่าง ดาร์เนลล์ เอริค บิเล่ สมควรนั่งสำรองมากกว่า”
“ดาร์เนลล์ รับค่าเหนื่อยระดับนักเตะสมัครเล่น แต่เขาคือคนคือที่เก่งที่สุดของทีม ผมส่งเขาลง 20 นาทีสุดท้าย – เขาทำ 2 แอสซิสต์จนเราชนะ”
“แต่สโมสรก็ไม่ต้องการให้ ดาร์เนลล์ ลงสนามอยู่ดี สโมสรคิดว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ เพราะนักเตะยังไม่เซ็นสัญญาใหม่ แต่ผมตัดสินใจด้วยคุณภาพของเขา”