คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงกัปตัน ฝรั่งเศส เปิดเผยการใส่หน้ากากลงเล่นคือเรื่องย่ำแย่สุดๆ และยังทำให้จมูกเขาตกเป็นเป้าโจมตีของคู่แข่ง แต่ยืนยันยอมรับความเจ็บปวดได้ พร้อมทำทุกอย่างเพื่อช่วยทีมลุย ยูโร 2024
เอ็มบัปเป้ จมูกหักตั้งแต่ท้ายเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก จนต้องใส่หน้ากากในช่วงที่เหลือของทัวร์นาเมนต์ และดาวยิงวัย 25 ปี เผยความรู้สึกออกสื่อเป็นครั้งแรก ก่อนแข่งรอบ 16 ทีมกับ เบลเยียม วันจันทร์นี้
“ตอนโดนปะทะครั้งแรก ผมไม่มีความรู้สึกที่จมูกด้วยซ้ำ แต่ผมสามารถบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตอนกลับเข้าห้องแต่งตัว ผมกลัวว่าฟุตบอลยูโรของตัวเองจะจบลงแล้ว”
“มันเป็นความรู้สึกที่รับได้ยาก ผมนอนไม่หลับตลอด 2 คืน การลงเล่นภายใต้หน้ากากก็เป็นเรื่องย่ำแย่มาก ผมต้องเปลี่ยนหน้ากากอยู่เสมอเพราะมันรบกวนผมทุกครั้ง”
“ช่วงไม่กี่วันแรก ผมรู้สึกเหมือนใส่แว่นตาสามมิติ หน้ากากจำกัดการมองเห็นของผม และยังมีเรื่องของเหงื่อ ผมอยากถอดมันออก แต่ผมไม่สามารถลงเล่นโดยไม่ใส่หน้ากากได้ ผมเปลี่ยนมันไปแล้ว 5 ครั้ง”
สตาร์คนใหม่ของ เรอัล มาดริด ถูกถามเพิ่มเติม ถึงเหตุการณ์ในเกมล่าสุด ซึ่งเขาหวนลงตัวจริงพร้อมหน้ากากเป็นครั้งแรก แล้วมีจังหวะโดน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้า โปแลนด์ ปะทะใส่จมูก
“ผมไม่คิดว่า เลวานดอฟสกี้ มีเจตนาทำแบบนั้น แต่เมื่อลงเล่นด้วยจมูกที่หักและยังไม่ได้รับการผ่าตัด คุณย่อมตกเป็นเป้าหมายของคู่แข่ง”
“ตอนตัดสินใจไม่กลับบ้านและไม่รับการผ่าตัด ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเองจะเจอกับอะไร และบางทีหากโดนกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อยมันอาจเจ็บปวด”
“แต่ผมพร้อมที่จะมอบทุกอย่างเพื่อช่วยให้ทีมเข้ารอบลึกที่สุด และหากนั่นหมายความว่าจะมีใครบางคนอัดใส่จมูก ผมก็พร้อมที่จะรับมือ จมูกผมหักอยู่แล้ว มันไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด”
ตลอด 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ทีมของ ดิดิเยร์ เดสช็องส์ ยิงได้แค่ 2 ประตู คือจังหวะทำเข้าโกล์ตัวเองของคู่แข่ง และจุดโทษจาก เอ็มบัปเป้ ซึ่งอดีตดาวเตะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กล่าวต่อเพื่อชี้แจง:
“นั่นเป็นปัญหาใหญ่ในรอบแบ่งกลุ่ม เรามีโอกาสหลายครั้ง แต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้ ตอนนี้เราเหมือนเข้าสู่รายการใหม่ มันเป็นรอบน็อคเอาท์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำประตูต้องอยู่ในจิตใจของทุกคน”