เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไม่พอใจที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดนหาว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ ทั้งที่ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เคยทำ
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ชี้ว่า ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เคยใช้เงินซื้อความสำเร็จ เหมือนที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำอยู่ในปัจจุบัน
แมนซิตี้ ทุ่มเงินอีกก้อน และคว้าตัว เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์ มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ล่วงหน้า
“ผมดูสารคดีเกี่ยวกับลิเวอร์พูลในยุคของ บิลล์ แชงค์ลีย์, บ็อบ เพสลีย์, โจ เฟแกน เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความสำเร็จของพวกเขาใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และลิเวอร์พูล ยุคทศวรรษ 1970 รวมถึงยุคทศวรรษ 1980 กับทีมอื่นๆ ในลีกน่ะ ใครใช้เงินมากกว่ากัน ? ไม่ต่างจากแมนฯ ซิตี้ เลยด้วยซ้ำ แต่ทุกคนกลับมองว่าเราเป็นทีมที่ฟุ่มเฟือยและใช้เงินซื้อความสำเร็จ เพียงเพราะว่าเรามีเจ้าของทีมที่ร่ำรวย” เป๊ป กล่าว
“หรือจะเป็นทีมอื่น อย่างเช่น เลสเตอร์ รึไง ? เลสเตอร์ ใช้เงินมากกว่าพวกเขางั้นเหรอ ? ไม่ใช่เลย พวกเขานั่นแหละใช้เงินมากกว่าทีมอื่นๆ เพียงแต่เงินจากพวกเขา (สปอนเซอร์) ในตอนนั้นมันต่างจากสมัยนี้ก็เท่านั้น”
“เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปี ที่แล้ว ลิเวอร์พูลใช้เงินมากถึง 1.9 ล้านปอนด์คว้าตัว ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ จากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในปี 1987 และจ่าย 8.5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว สแตน คอลลีมอร์ ในปี 1995 ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลมากในยุคนั้น และถ้าจะให้เปรียบเทียบกับสมัยนี้ การซื้อตัว 2 แข้งดังกล่าว ก็คือดีลระดับ 100 ล้านปอนด์ในยุคสมัยนี้”
“สำหรับคนทั่วไป อาจมองว่าลิเวอร์พูลใช้จ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อซื้อความสำเร็จในยุคนั้น แต่จริงๆ แล้วลิเวอร์พูลใช้จ่ายเงินในจำนวนมหาศาลเลยก็ว่าได้ และเป็นราคาที่ทีมร่วมลีกทีมอื่นๆ ไม่สามารถจ่ายในระดับนี้ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นลิเวอร์พูลจึงควรเป็นทีมที่ถูกมองว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จเช่นเดียวกับแมนฯ ซิตี้”
“ผมเคยบอกแล้วว่าผมจะไม่พยายามเปลี่ยนมุมมองของคนอื่น (ที่มีต่อ แมนฯ ซิตี้) ตอนที่เราได้ เอติฮัด มาเป็นสปอนเซอร์บนหน้าอกเสื้อ หลายคนบอกว่า -มันเป็นการจ่ายเงินเยอะเกินไป- แต่ตอนนี้ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล อาจจะได้เงินมากกว่าเราด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็อาจจะเป็นเรื่องที่คู่ควรแล้วก็ได้ ไม่ว่าจะเพราะพวกเขาทำงานกันได้ดี, ซีอีโอเจรจาได้เยี่ยม หรืออะไรก็ตาม”