ทำความรู้จักกับคู่ต่อสู้รายสุดท้าย อย่าง อินโดนีเซีย ที่ถือเป็นด่านสุดท้ายของ ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ในภารกิจทวงบัลลังก์จ้าวอาเซียนในรอบสามปี
จากสถิติที่ผ่านมา เจ้าภาพ อินโดนีเซีย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกชิงแชมป์อาเซียน หลังยิงไปถึง 22 ประตู เสียไปสามประตู เป็นทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ และสามารถเอาชนะมาได้หกเกมรวด ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบรองชนะเลิศ ซึ่งพวกเขาถือเป็นทีมที่มีเกมรุกดีที่สุด ขณะที่ทีมชาติไทย คือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในทัวร์นาเมนต์ที่สองประตู เท่ากับ ปีก่อน
สถิติการพบกันของทีมชุดนี้ เมื่อปีก่อน ทั้งสองทีมพบกันมาสองครั้ง ครั้งแรกในศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 ณ สนาม สพล.ชลบุรี เป็นทีมชาติไทย ที่เฉือนชนะไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และอีกครั้งที่ทั้งสองทีมโคจรมาพบกัน ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นอินโดนีเซีย ที่ชนะไป 1-0 จากการยิงของ อมานาร์ อัลดิลลาห์
ขณะที่ คีย์แมนของอินโดนีเซีย ชุดนี้คือ อมิรุดดิน บากัส อัล ฟีกรี ที่ยิงไปแล้ว 12 ประตู ในทัวร์นาเมนต์นี้จากการลงเล่นทั้งหมด 4 นัด โดยการที่เขาไม่ได้ลงเล่นสองนัดเป็นเพราะถูกใบแดงในเกมที่พบกับ เวียดนาม ในรอบแบ่งกลุ่ม
นอกจากฟอร์มการเล่นที่ดีแล้ว อีกสิ่งที่น่ากลัวของอินโดนีเซีย ก็คือ กองเชียร์หมายเลข 12 ของเขา ที่ทยอยมาชมที่สนาม พร้อมฉาบสังเวียนอย่าง เกโลรา เดลต้า สเตเดียม ที่สามารถจุคนได้ 30,000 คน ให้เป็นสีแดง ถือเป็นบททดสอบสำคัญของทัพช้างศึกเลยก็ว่าได้
ภารกิจสุดท้ายของ ทัพช้างศึก U16 จะประสบความสำเร็จหรือไม่ วันที่ 11 สิงหาคม 2561 เวลา 19.00 น. มีคำตอบรออยู่
ขอบคุณเนื้อหาจาก ฟุตบอลทีมชาติไทย