“เบนจามิน เดวิส” กับการย้ายมา ท่าเรือ พร้อมเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่เบ้อเร่อ

การย้ายทีม ของ เบนจามิน เดวิส ที่ตัดสินใจเลือกลา อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด มาอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี มีเครื่องหมายคำถามมากมาย พร้อมคำวิจารณ์หลายอย่าง กับการกลับมาไทยลีกครั้งนี้

ถือเป็นข่าวใหญ่ของวงการลูกหนังไทย ณ ปัจจุบัน หลังจาก ที่ เบนจามิน เดวิส ตัดสินใจย้ายจาก อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด มาอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะ

เพราะมันเกิดคำถามมากมายว่า ทำไมเขาตัดสินใจอย่างนั้น ทำไมเลือกที่จะย้ายกลับมาค้าแข้งในไทย ทำไม การท่าเรือ ถึงเลือกจะดึงตัวเขามาร่วมทีม และทุกคนต่างพากันปักธงว่า นี่จะเป็นอีกหนึงนักเตะที่อาจจะส่อแววหายจากสารบบของทีมชาติไป เมือได้เข้ามาอยู่ครอบครัวท่าเรือ

ย้ายมา การท่าเรือ ผิดไหม?

การตัดสินใจย้ายมา การท่าเรือ เอฟซี เกิดเครื่องหมายคำถาม ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวของ เบนจามิน เดวิส แต่มันมีนักเตะหลายราย ที่ถูกตั้งคำถามเสมอยามที่ย้ายมาอยู่ท่าเรือ

เพราะก่อนหน้านี้ มีนักเตะที่ส่อแววรุ่งหลายราย เมื่อย้ายมาท่าเรือ กลับไม่ประสบความสำเร็จ ไล่ตั้งแต่ สองฝาแฝดอย่าง ทิตาธร และ ทิตาวีร์ อักษรศรี ที่ถูกคาดว่าจะก้าวขึ้นมาชุดใหญ่ แต่เมื่อพวกเขาเลือกย้ายจาก โปลิศ เทโร เอฟซี มาอยูกับ ท่าเรือ พวกเขากลับไปไม่รอด และดูท่าจะยากที่จะได้กลับไปติดทีมชาติไทย

หรือแม้กระทั่งตัวของ เจนภพ โพธิ์ขี หรือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ในช่วงที่ผ่านมา ที่สุดท้าย ท่าเรือ เปรียบเหมือนสุสานฝังนักเตะที่กำลังฟอร์มร้อนแรง

และเมื่อเบน เดวิส ตัดสินใจย้ายมา ทุกคนต่างก็กังวลว่า ท่าเรือ จะเป็นสุสานทีฝังนักเตะลูกครึ่งไทย-อังกฤษ และ สิงคโปร์ คนนี้อีกคนหรือไม่

แน่นอนว่ามันออกได้ทุกหน้า เพราะในฟุตบอลไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ แต่ถามว่า การย้ายไป การท่าเรือ นั้นผิดไหม แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดเลย เมื่อมีข้อเสนอเข้ามา นักเตะมีสิทธิ์เลือกได้เสมอว่าเขาจะตอบตกลง หรือ ปฏิเสธ และเมื่อ เบน เซย์เยส ทุกอย่างก็เกิดขึ้น มันก็เป็นเช่นนั้นแล

เบนจามิน เดวิส จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป

แน่นอนว่า มันย่อมมีคำถามเกิดขึ้นแน่ เพราะนี่คือนักเตะที่ฟอร์มดีที่สุดคนหนึงจากทีมชาติไทย U23 และการย้ายมาการท่าเรือ มันจะเป็นสุสาน และเป็นขวากหนาม และสุดท้าย ก็พลาดโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เหมือนกับ ทิตาวีร์ และ ทิตาธร อักษรศรี

คำถามนี้ ผู้ทีจะให้คำตอบคือ สกอตต์ คูเปอร์ ว่าจะให้โอกาสตัวเขามากมายแค่ไหน รวมถึง คนที่ตัดสินใจซื้อเขามา ว่าเป็นการตัดสินใจของโค้ชว่าต้องการจะดึงตัวนักเตะมาเสริมทีม และพร้อมให้โอกาส หรือแค่มองว่าเขามีโปรไฟล์ดี เลยดึงเข้ามา กักตุนไว้ก่อน

ถ้าเป็นแบบแรก มันก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะมันคือเรื่องปกติของฟุตบอล แต่หากเป็นอย่างหลังมันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวล ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่า บทสรุปจะเป็นอย่างไร แม้หลายเสียงจะบอกว่า โอกาสดับนั้นมีสูงกว่าที่จะไปรอด

การท่าเรือ กับการสลัดภาพลักษณ์ ความเป็นครอบครัว

ในฟุตบอลสมัยนี้ มันไม่เหมือนสมัยก่อน ที่จะทำทีมแบบ เรอัล มาดริด ยุคกาลาคติกอส แต่มันมีแบบแผน แท็คติกเข้ามา เราจะเน้นเสริมแต่ตัวดัง ดึงคนที่ฟอร์มดีมาร่วมทีมอย่างเดียวไม่ได้

เพียงแต่ต้องมองด้วยว่า การท่าเรือ เล่นแบบไหน นักเตะคนนี้สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของทีมได้หรือไม่

มันเลยจะเห็นภาพว่านักเตะบางคนเล่นกับทีมนี้ ทำผลงานได้ดี แต่พอมาทีมนี้ทำไมมันเล่นไม่ได้ เพราะฟุตบอลตอนนี้ มันแค่เก่งอย่างเดียวไม่พอ แต่มันต้องมองหาความเหมาะสม ว่านักเตะเข้าสไตล์หรือไม่

จะบอกว่านักเตะไม่เก่ง เลยไม่ได้โอกาส คำพูดนี้ก็จะย้อนไปที่ตัวสรรหานักเตะมาเสริมทีมว่า แล้วเอาเขามาทำไม

นี่เลยเป็นเรื่องสำคัญ หากเบนจามิน เดวิส ระเบิดฟอร์ม และต่อยอดประสบความสำเร็จ ท่าเรือก็จะสามารถสลัดภาพ การเป็นสุสานฝังนักเตะอนาคตไกล

แต่หากเบนจามิน เดวิส กลายเป็นอีกคนที่มาแล้วได้แต่นั่งที่ม้านั่งสำรอง และหลุดจากสารบบของทีมชาติ มันจะยิ่งตอกย้ำว่า ท่าเรือ คือสุสานฝังนักเตะ และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาซื้อนักเตะฟอร์มดี อนาคตไกลมาเสริม ก็จะโดนแฟนบอลตั้งคำถามแบบนี้ ไปตลอดเหมือนเดิม