แกรี่ เนวิลล์ มองว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ จะไม่สามารถก้าวไปถึงระดับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้ แต่ก็ดีพอเป็นกองหน้าที่เก่ง
แกรี่ เนวิลล์ มองว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่สามารถก้าวไปถึงระดับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ แต่ก็ดีพอเป็นกองหน้าที่เก่งคนหนึ่ง
โดย ฮอยลุนด์ หัวหอกตัวความหวัง กลับกลายเป็นว่าเขามีปัญหาเรื่องการทำสกอร์ให้กับ ปีศาจแดง แต่ก็ยิงไปแล้ว 14 ประตูจากการลงเล่น 40 นัดทุกรายการ ซึ่งมีรายงานว่าเพื่อนร่วมทีมไม่ผ่านบอลให้เขามากพอ
ทั้งนี้ เนวิลล์ เปิดเผยว่า “ผมคิดว่าเด็กคนนี้ยังจำเป็ฯต้องทำงานหนัก แบบเดียวกับที่ผมเคยคิดกับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ในมุมมองของผมนั้นเขาจะไม่มีวันเป็นเหมือนกับ ฮาลันด์ หรือ อเกวโร่ ซึ่งต่างเป็นหนึ่งในกองหน้าที่เก่งที่สุดตลอดกาลของลีก”
“แต่เขาสามารถเป็นเหมือน โอลลี่ วัตกิ้นส์ ได้ ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะระดับที่จะยิงสัก 20 ลูกได้ ที่จริงฤดูกาลนี้ผมหวังว่าเขาจะรับบทบาทเป็นกองหน้าลำดับ 2 ของทีมด้วยซ้ำ ผมหวังว่าเขาจะได้ใช้เวลาในซีซั่นนี้ไปกับการเรียนรู้เรื่องต่างๆ”
“สัปดาห์ก่อนผมได้สัมภาษณ์กับ เอริค เทน ฮาก ซึ่งเขาก็พูดถึง แฮร์รี่ เคน ด้วย ที่จริงถ้าเขาได้เรียนรู้จาก เคน หรือได้เล่นร่วมกับ เคน แล้ว เขาก็น่าจะเป็นนักเตะที่ต่างไปจากตอนนี้ นอกจากนี้ เขาก็เพิ่งมีอายุแค่ 21 ปีเท่านั้น”
“เขายังมีจังหวะที่ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ในการเล่นพรีเมียร์ลีก เป็นฤดูกาลแรก และเขาก็ทำให้ผมนึกถึง ดาร์วิน นูนเญซ นิดๆ รวมถึง นิโกลัส แจ็คสัน ด้วย ตอนนี้เขาเป็นกองหน้าตัวเป้าแค่คนเดียวในขุมกำลังชุดนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
“ไม่ต้องพูดถึง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เลย เพราะเขาไม่ได้ช่วยทีมแบบต่อเนื่องตลอดช่วงหลายปีมานี้ ถ้าคุณลองพิจารณาถึง นูนเญซ กับ ฮอยลุนด์ สิ่งที่น่าสนใจสำหรับผมก็คืออัตราการเปลี่ยนลูกยิงให้เป็นประตูได้ของ ฮอยลุนด์) มันสูงถึง 22 เปอร์เซ็นต์”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้รับโอกาสทำประตูสวยๆ แบบจริงจัง เขาก็จะยิงได้ดีกว่า แจ็คสัน และ นูนเญซ แน่นอน คุณอาจจะมองว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ผมมองว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนใจ นอกจากนี้เขาก็มีผลงานด้านประตูที่น่าจะทำได้ ของเขาก็ถือว่าต่ำมากๆ”
“เพราะอยู่ที่ 7.4 ลูกเท่านั้น การผ่านบอลไปให้เขามันแย่มากๆ แล้วลองไปเทียบกับ นูนเญซ และ แจ็คสัน ดูสิ ตัวเลขด้านนี้ของพวกเขาอยู่ที่ 16.3 ลูกกับ 17.3 ลูก ตามลำดับ หรือเรียกว่า 2 เท่าเลยก็ว่าได้”