ข่าวฟุตบอล ไทยลีกเนติพงษ์ แสดงความยินดีกับ อดิศักดิ์ หลังทำลายสถิติของตนเองได้
โพสต์รูปภาพ

Untitled121

เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ อดีตกองหน้าทีมชาติไทยชุดดรีมทีม แสดงความยินดีกับ “กอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร หัวหอกรุ่นน้อง ที่ทำลายสถิติยิงประตูมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนหนึ่งครั้งลงได้สำเร็จ

ศูนย์หน้าฉายา AK9 กดประตูปิดท้ายให้กับทีมในเกมเปิดบ้านถล่มเอาชนะ สิงคโปร์ ไป 3-0 ทำให้เขายิงประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ไปแล้ว 8 ประตู ทำลายสถิติของ “อัลเฟรด” ที่ทำไว้ 7 ประตู เมื่อปี 1996 ลงได้สำเร็จ และหัวหอกจากทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนิเต็ด ต้องการอีกเพียงสองประตูก็จะก้าวขึ้นไปทาบสถิติของ นอร์ อลัม ชาห์ อดีตกองหน้าทีมชาติสิงคโปร์

“ผมเชื่อว่านักฟุตบอลแต่ละคนที่ลงไปเล่น ไม่มีใครคิดถึงเรื่องการทำลายสถิติส่วนตัว โดยส่วนตัวของพี่ พี่อยากให้มีคนทำลายสถิติตัวเองเสมอ เพราะเมื่อไหร่ที่ทีมชาติของเรามีการทำลายสถิติได้ นั่นแปลว่า ทีมชาติกำลังมีผลงานที่ดี” เนติพงษ์ กล่าวเริ่ม

“การทำลายสถิติของเขา (อดิศักดิ์ ไกรษร) ผมเชื่อว่ามันจะทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น เขาเองก็คงไม่ได้คิดถึงจุดนี้ แค่พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด นั่นก็คือการทำประตูช่วยทีม”

“ที่ผ่านมา ผมได้ดูการแข่งขันบางนัด เนื่องจากติดอบรมโค้ชอยู่ แต่เท่าที่ดูแล้ว เขา (อดิศักดิ์) เป็นกองหน้าที่มีสัญชาตญาณ ที่ดีและมีคุณภาพสูง”

“ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าศูนย์หน้าชาวไทยทุกคนต่างมีศักยภาพ เทคนิคส่วนตัวก็ดี แต่เรายังขาดกองหน้าสไตล์เข้าฮอร์ส เพราะจากสถิติในฟุตบอลโลก ที่ผ่านมา ประตูส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกรอบ 6 หลา ผมคิดว่าหากเราหากองหน้าสไตล์แบบนี้เพิ่มเข้ามา อาจจะช่วยยกระดับศักยภาพของทีมขึ้นไป”

“สุดท้ายผมก็อยากให้แฟนบอลชาวไทยให้กำลังใจทีมชาติไทยกันเยอะๆ จากที่ดูโค้ช ราเยวัช คุมทีมมาก เขาอาจจะเน้นเรื่องเกมรับมากกว่าเกมรุก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี เพราะสำหรับผมเกมรุกของทีมชาติไทยไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องเกมรับ ก็ขอฝากแฟนบอลว่าแม้เกมมันอาจจะไม่เร้าใจ ตื่นเต้น แต่เพื่ออนาคต มันต้องดีแน่นอน ก็อยากให้เวลาโค้ชเขาได้สร้างมาตรฐานตรงนี้ให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นไป” อดีตศูนย์หน้าช้างศึก กล่าวปิดท้าย

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 รอบรองชนะเลิศ ทีมชาติไทย จะออกไปเยือนทีมชาติ มาเลเซีย ในวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ที่สนามบูกิต จาลิล ส่วนนัดที่ 2 “ช้างศึก” จะกลับมาเล่นในบ้านวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน