ช่วงพักเบรกพรีเมียร์ลีกก็เข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพรอบที่4 ซึ่งเป็นโอกาสที่หลายต่อหลายทีมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสำรองหรือแข้งดาวรุ่งได้ลงสนามกันบ้าง
ทรานเมียร์โรเวอร์ 0 : 6 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ทรานเมียร์เปิดรังเพรนตันปาร์ครับปีศาจแดง เจ้าถิ่นจัดผู้เล่นที่ดีที่สุดออกสตาร์ท ภายใต้ระบบการเล่น4-2-3-1ผู้รักษาประตูเป็นสก็อต เดวิส แดนหน้าฝากความหวังไว้กับมอร์แดน เฟอร์เรีย ส่วนแมนยูฯนั้นโซลชาให้โอกาสผู้เล่นสำรองได้ลงเคาะสนิมหลายราย ผู้รักษาประตูเป็นเซร์คิโอ โรเมโร่ แนวรับฟิล โจนส์จับคู่กับแฮรี่ แม็คไกวร์ ดาวรุ่งอย่างเมสัน กรีนวู๊ดล้วนได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ด้วยชื่อชั้นที่ต่างกันมาก ปีศาจแดงจึงรัวยิงอย่างจุใจตั้งแต่ครึ่งแรก นาทีที่9แฮรี่ แม็คไกวร์ก็ลากบอลขึ้นมาซัดไกลให้แมนยูนำ1-0 อีก3นาทีต่อมาดีเอโก้ ดาโลลากบอลขึ้นมายิงในเขตโทษเสียบเสาไกลเป็น2-0 นาทีที่15เจสซี่ ลินการ์ดเก็บบอลได้หน้ากรอบเขตโทษก่อนปั่นเสียบเสาเป็น3-0 นาที40อสูรเเดงได้ลูกเตะมุมฝั่งซ้ายบอลเปิดไปที่เสาไกลฟิล โจนส์ทะยานโขกย้อนศรเข้าประตูเป็น4-0 ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียวอองโตนี่ มาร์กซิยาลได้บอลหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไปอย่างงามหยดเป็น5-0 ครึ่งหลังนาที54 ทาฮิต ชองดาวรุ่งปีศาจแดงโดนผู้รักษาประตูทรานเมียร์รวบล้มในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกจุดโทษ และเมสัน กรีนวู๊ดก็สังหารจุดโทษไม่พลาด ทำให้หมดเวลาปีศาจแดงเอาชนะทรานเมียร์ไปได้อย่างท่วมท้น6-0
แมนเชสเตอร์ซิตี้ 4 : 0 ฟูเเล่ม
ที่อัลติฮัสเตเดี้ยมแมนซิตี้ต้อนรับการมาเยือนของฟูเเล่ม เป็ป กวาร์ดิโอล่าให้โอกาสตัวสำรองลงเล่นหลายรายอาทิ เอริค การ์เซียกองหลังดาวรุ่งวัย19ปี,ฟิล โฟเด้น และเคราดิโอ บราโว่นายทวารชาวชิลี ขณะที่ฟูแล่มนำทีมโดยทิม รีมกองหลังกัปตันทีม และบ๊อบบี้ รีดหัวหอกทีมชาติจาไมก้า เริ่มเกมได้5นาทีฟูแล่มก็โชคร้ายแบบสุดๆเมื่อกัปตันทีมฟูแล่มทิม รีมตามเหนี่ยวกาเบียล เฆซุสหลุดล้มลงเขตโทษ กรรมการเป่าเป็นจุดโทษพร้อมให้ใบแดงกองหลังชาวสหรัฐอีกต่างหาก และเป็นกุยโดกันสังจุดโทษเข้าประตูช่วยให้ซิตี้ออกนำ1-0 และฟูแล่มเหลือผู้เล่นแค่10คน เมื่อทั้งคุณภาพผู้เล่นก็เหนือกว่าแถมตัวผู้เล่นยังมากกว่าอีกก็ทำให้เจ้าบ้านเดินหน้าบุกแบบม้วนเดียวนาที18 แบร์ราโด้ ซิลวาโยกหลอกที่หน้าปากประตูก่อนจะหาช่องยิงเน้นๆเสียบเสาแรกเป็น2-0 นาที70ทีมเยือนเสียบอลหน้าประตูตัวเอง ก่อนบอลจะถูกเปิดไปให้กาเบียล เฆซุสได้ได้โขกกระดอนพื้นหนีมือผู้รักษาประตูตุงตาข่ายเป็น3-0 อีกสองนาทีให้หลังฟิล โฟเด้นได้หลุดไปยิงเน้นๆในเขตโทษแม้มาเร็ค โรเด็คนายด่านฟูแล่มจะเซฟได้ในทีแรก แต่บอลก็ยังมาเข้าทางปืนเฆซุสโขกซ้ำปิดกล่องให้แมนซิตี้เอาชนะฟูแล่มไปอย่างสบายเท้า4-0
ชรูว์บิวรี่ 2 : 2 ลิเวอร์พูล
เจ้าบ้านชรูว์บิวรี่หวังพึ่งแค่ทีเด็ดในเกมรุกของคัลลั่ม แลงส์ และฌอน เวย์รี่ ส่วนเจอร์เกน คล็อปป์พักผู้เล่นชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลไว้หลายราย ผู้รักษาประตูเป็นอาเดรียน ดาวรุ่งอย่างเคอร์ติส โจนส์,เนโกร วิลเลี่ยม,ยาสเซอร์ ลารูซี่ และฮาร์วี่ เอลเลียตได้ออกสตาร์ท แดนหน้าแข้งใหม่อย่างทาคูมิ มินามิโนะได้ได้ลงเล่นด้วยเช่นกัน เริ่มดีว๊อค โอริกี้ได้ลองยิงทักทายก่อนแต่บอลหลุดเสาไกลออกไปเท่านั้น นาทีที่8ทีมเยือนก็ออกนำจนได้บอลแทงทะลุช่องจากกลางสนามเคอร์ติส โจนส์ฉีกหนีตัวประกบเข้าไปแปบอลตุงตาข่ายเป็น1-0 เริ่มครึ่งหลังได้นาทีเดียวชรูว์บิวรี่ก็ทำหมูหกอย่างแรงเมื่อเนโกร วิลเลี่ยมเปิดบอลจากฝั่งขวาบอลไม่อันตรายอะไรและไม่มีผู้เล่นลิเวอร์พูลที่เจ้าเข้าถึงบอลได้เลย แต่ทว่าโดนัลล์ เลิฟกลับวิ่งไปสกัดบอลเข้าประตูตัวเองอย่างหน้าตาเฉยส่งผลให้หงส์นำเป็น2-0 แต่ทว่านาที65เจ้าบ้านก็มาได้ประตูตีไข่แตกเมื่อจอร์ช ลอร์เรนท์ถูกยาสเซอร์ ลารูซี่ทำฟาวส์ในเขตโทษ เป็นเจสัน คัมมิ่งส์ยิงไม่พลาดไล่มาเป็น1-2 สิบนาทีต่อมาชรูว์บิวรี่ตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อผู้รักษาประตูแม็กซ์ โอเลียรี่เตะบอลโด่งมาจากหน้าประตูตัวเองจอร์ช ลอร์เรนท์โหม่งชงให้คัมมิ่งส์วิ่งไปแตะบอลหนีลอฟเรนที่เข้าพรวดก่อนยิงหักข้อผ่านอาเดรียนเข้าไปตุงตาข่ายทำให้จบเกมแบบเสมอกันไป2-2 และต้องกลับไปเตะนัดรีเพลย์ที่แอนด์ฟิล