เดอะโกลโพสจะพาเพื่อนๆไปติดตามผลการแข่งขันของพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ที่ 23 ไปดูซิว่าลิเวอร์พูลจะดับซ่าแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้หรือไม่ รวมไปถึงเกมลอนดอนดาร์บี้ระหว่างสเปอร์สดวลกับเชลซี
ท็อตแน่มฮอตสเปอร์ส 0 : 1เชลซี
เริ่มเกมไม่กี่อึดใจเชลซีได้ลุ้นก่อนเซซาร์ อัซปิลิกวยต้าตัดบอลยาวไปหน้าปากประตูติโมร์ แวร์เนอร์เติมมาโหม่งบอลย้อยข้ามหัวฮูโก้ โยริสนายทวารเจ้าบ้านแต่บอลก็หลุดกรอบออกไปด้วย เกมนี้ทีมเยือนพยายามใช้ความเร็วของแวร์เนอร์โจมตีเข้าใส่ แล้วนาที22แวร์เนอร์ก็เรียกจุดโทษให้เชลซีได้สำเร็จ เมื่อกองหน้าเยอรมันสอดมารอบบอลในเขตโทษ ก่อนโดนเอริค ดายเออร์สะกิดล้มในเขตโทษ เปิดทางให้จอร์จินโญ่สังหารจุดโทษเข้าไปให้สิงห์บลูออกนำ1-0 นาที41สเปอร์สได้ลุ้นบ้างเมื่อซน-ฮึง-มินเปิดลูกตั้งแต่มาให้แซตจ์ โอริเย่ร์เติมมาโหม่งเน้นๆแต่น่าเสียดายที่บอลหลุดกรอบ นาที58เชลซีเกือบหนีห่าง เมสัน เม้าส์หาช่องจ่ายทำทางให้แวร์เนอร์ได้สอดมายิงโล่งแต่ก็โดนแซตจ์ โอริเย่ร์ตามมาทำลายจังหวะจนกองหน้าเยอรมันยิงข้ามคาน นาที78 เอริค ราเมล่าแนวรุกสเปอร์หาช่องปั่นโค้งอย่างได้ลุ้นแต่อูเออาร์ เมนดี้นายด่านเชลซีก็ยังทุบหลุดกรอบไปได้ ช่วงที่เหลือไม่มีฝ่ายใดยิงประตูเพิ่มได้จบเกมเชลซีจึงบุกมาเบียดชนะสเปอร์สไป1-0
ลิเวอร์พูล 1 : 4 แมนเชสเตอร์ซิตี้
นาที23หงส์แดงได้ทักทายก่อนเมื่อเทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลเติมสูงขึ้นมาเปิดบอลเข้ากลางให้มาเน่สอดมาโขกโล่งไร้ตัวประกบแต่บอลไม่เข้ากรอบ นาที35แมนซิตี้ได้จุดโทษเมื่อราฮีม สเตอริ่งลากจี้เข้าหาปากประตูก่อนโดนฟาบินโญ่แหย่เท้าสะกิดล้มในเขตโทษ แต่ทว่ากุยโดกันกลับยิงจุดโทษไม่เข้ากรอบ ครึ่งแรกจึงยังเสมอกันแบบโนสกอร์ ครึ่งหลังเล่นมาได้สามนาทีซิตี้ออกนำจนได้ เมื่อสเตอริ่งป้ายบอลต่อให้โฟเด้นยิงเผาคนติดเซฟอลิสซง แต่ทว่าบอลยังเป็นใจมาเข้าทางกุยโดกันปรี่เข้าซ้ำตุงตาข่ายเป็น1-0 นาที61เจ้าบ้านมาได้จุดโทษคืนบ้างเมื่อรูเบน ดิอาซไปเหนี่ยวซาล่าในเขตโทษ และเป็นซาล่าสังหารจุดโทษไม่พลาดให้สกอร์ตามมาเท่ากันที่1-1 นาที72อลิสซงส่งบอลพลาด ฟิล โฟเด้นตัดบอลได้ก่อนลากจี้เข้าหาปากประตูก่อนจ่ายหลอกให้กุยโดกันมาสะกิดบอลเผาขนเข้าไปเป็น2-1 อีกสามนาทีต่อมาอลิสซงก็จ่ายบอลหน้าประตูพลาดอีกครั้ง เมื่อเค้าเตะบอลไปติดแบร์นาโด้ ซิลวา ก่อนสตาร์โปรตุเกสจะตักโด่งไปเสาไกลให้ราฮีม สเตอริ่งโหม่งง่ายๆเข้าไปเป็น3-1 นาที82ทีมเยือนมาได้ประตูปิดกล่องเมื่อฟิล โฟเด้นไปบอลทางกราบขวาก่อนลากจี้เข้ามายิงยัดไส้แสกหน้าอลิสซงเข้าไปเป็นเม็ดสี่ ทำให้จบเกมแมนซิตี้บุกมาชนะลิเวอร์พูลถึงแอนด์ฟิล4-1
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3 : 3 เอฟเวอร์ตัน
นาที23 แรชฟอร์ดเปิดบอลโค้งไปเสาไกลให้เอดิสัน คาวานี่สอดมาขวิดตุงตาข่ายเป็น1-0 ผีแดงนำ นาที40แมนยูเกือบพลาดเสียประตู เมื่อดาบิด เด เคอาออกมารอเล่นบอลไกลจากเส้นประตู แต่ริชาร์ริสันแย่งบอลได้ ก่อนที่สตาร์แซมบ้าตัดสินใจยิงลักไก่ทันทีแต่บอลก็ไหลหลุดเสาไกลไปอย่างน่าหวาดเสียว ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว ผีแดงได้ครองบอลบุกหน้ากรอบเขตโทษ บรูโน่โยกหลอกผู้เล่นเอฟเวอร์ตันก่อนปั่นโค้งหนีมือพิคฟอร์ดเสียงมุมเสาไกลเข้าไปเป็นประตูที่สอง ครึ่งหลังนาที48 โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวีนลากบอลเข้าหาปากประตูแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ากลางเด เคอาปัดบอลไว้ได้ในทีแรกแต่บอลก็มาเข้าทางอับดูลาย ดูกูเร่ตามซ้ำง่ายๆตีไข่แตกตามมาเป็น1-2 สองนาทีถัดมาท็อฟฟี่บุกเข้าใส่ ลินเดอเลิฟสกัดบอลไม่ขาด ทำให้ดูกูเร่เก็บบอลได้ก่อนไหลให้ฮาเมสยิงเต็มข้อเสียบมุมซ้ายมือเด เคอาเข้าไปเป็น2-2 นาที69 ลุค ชอร์เปิดบอลไปลุ้นหน้าประตูสก็อต แม็คโทมิเน่ย์เติมมาขวิดเสียบตาข่ายให้ผีแดงออกนำอีกครั้ง3-2 ท้ายเกมช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่4 ลูก้า ดีญเปิดบอลมาหน้าประตู ไมเคิล คีนโหม่งชงต่อให้คัลเวิร์ต-เลวีนปรี่เข้าชาร์จตัดหน้าเด เคอาไหลเข้าประตูทำให้จบเกมเสมอกันสุดมันส์ 3-3