“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้ชูถ้วยแชมป์ คาราบาว คัพ หลังเฉือนชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในนัดชิงด้วยการดวลจุดโทษ 11-10 หลังเสมอกัน 120 นาทีแบบไร้สกอร์ 0-0
เกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ชวดใช้งาน ติอาโก้ อัลคานทาร่า ได้รับบาดเจ็บตอนวอร์มอัพ ส่วนแนวรุกให้ หลุยส์ ดิอาซ ลงไปยืนล่าตาข่ายร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเม็ด ซาล่าห์
ส่วน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี ตัดสินใจดร็อป โรเมลู ลูกากู เป็นตัวสำรอง เพื่อให้ ไค ฮาเวิร์ตซ ลงไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อประสานงานกับ เมสัน เมาท์ และ คริสเตียน พูลิซิช
ในช่วงครึ่งแรกยังไม่มีการยิงประตูเกิดขึ้น เสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลังทั้งสองทีมมีโอกาสส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อน จบ 90 นาที เสมอ 0-0 จึงต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อตามหาผู้ชนะกันต่อไป แต่เมื่อครบ 120 นาทีไม่มีการยิงประตูเหมือนเดิม จึงเสมอกันไป 0-0 และต้องดวลจุดโทษตัดสินเพื่อตามหาแชมป์ ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล สังหารได้แม่นยำกว่าเฉือนชนะ 11-10
ทำให้ “หงส์แดง” ครองสถิติคว้าแชมป์รายการนี้ได้ถึง 9 สมัยไปเลย ส่วน เชลซี ทำได้ดีที่สุดเพียงรองแชมป์