ส.บอล แจ้งการใช้ระบบ VAR ช่วยตัดสินฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก

ซึ่งจากระเบียบของฟีฟ่า และเพื่อให้การใช้ระบบวีดิทัศน์ช่วยในการตัดสิน เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สโมสรสมาชิก ลดข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากข้อขัดข้องต่างๆ อีกทั้งเป็นการพัฒนาบุคลากรฝ่ายผู้ตัดสินให้มีความเชี่ยวชาญ สมาคมฯ และ ไทยลีก จึงปฎิบัติตามระเบียบข้อบังคับ และขั้นตอนที่ฟีฟ่ากำหนด

ด้วยการเตรียมทดสอบการใช้งานจริง กับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ ไทยลีก 1 ในช่วงเริ่มต้นของเลกแรกเพื่อทำให้แน่ใจว่า ระบบเครือข่ายผ่านสายเคเบิลใยแก้ว ที่นำสัญญาณมาจากสนามต่างๆ ที่เข้าร่วมแข่งขัน มีความเสถียรเมื่อถูกใช้ในวันแข่งขันจริง ที่มีการแข่งขันในเวลาพร้อมกัน หรือไล่เลี่ยกัน

ทั้งนี้ ในการใช้ระบบวีดิทัศน์ช่วยในการตัดสินตามระเบียบข้อบังคับของฟีฟ่า ในช่วงเริ่มแรก ผู้ควบคุมในห้องปฏิบัติการ VAR จะสามารถติดต่อกับผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในสนามได้ตามปกติ โดยจะไม่มีการเรียกดูวีดิทัศน์ จนกว่าทางคณะผู้ตัดสิน, ผู้ฝึกสอน VAR ที่ได้รับการรับรองจาก FIFA และ IFAB จะมั่นใจได้ว่าความเสถียร และคุณภาพของการปฏิบัติการโดยรวม เป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐานในระดับนานาชาติ

โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ บริษัท ไทยลีก จำกัด และผู้เชี่ยวชาญจากฟีฟ่า จะร่วมกันทำงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สโมสรสมาชิก ก่อนจะแจ้งผลการดำเนินการให้แก่สโมสรสมาชิก ได้ทราบทั่วกันต่อไป

อนึ่ง เทคโนโลยี VAR จะใช้ตัดสินสถานการณ์ 4 รูปแบบ อันประกอบไปด้วย

1. เป็นประตู/ไม่เป็นประตู (ลูกข้ามเส้นหรือไม่ข้ามเส้น, มีการฟาวล์ก่อน, ล้ำหน้า, ลูกบอลออกจากสนามก่อนเข้าประตู)

2. จุดโทษ/ไม่จุดโทษ (ตำแหน่งของการฟาวล์, ฝ่ายรุกทำฟาวล์ก่อน, ลูกบอลออกนอกสนามก่อนการฟาวล์, การที่ผู้รักษาประตูหรือผู้ยิงประตู ทำผิดกติกาขณะเตะจุดโทษ)

3. ใบแดงโดยตรง (เจตนาป้องกันประตูผิดกติกาอย่างตั้งใจ, การทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง)

4. ระบุตัวผู้เล่นผิดพลาด (เมื่อผู้ตัดสินคาดโทษหรือไล่ออกผู้เล่นผิดคน)ฃ

ขอบคุณ Fair