นายกสมาคมฯ ให้การต้อนรับประธานสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ นำเสนอเรื่องการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ก่อนการประชุมใหญ่
วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการสมาคมฯ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้การต้อนรับ คณะกรรมการนำเสนอการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 จากโซนอเมริกาเหนือ หรือ UNITY CERTAINTY OPPORTUNITY (UCO) ที่จะมีการโหวตในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของฟีฟ่า ในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
การต้อนรับครั้งนี้ นำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการฯ, คุณ ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร, คุณ เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการคลับ ไลเซนซิ่ง สมาคมฯ และรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด และ คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ พร้อมด้วย คณะกรรมการนำเสนอการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 จากโซนอเมริกาเหนือ นำโดย มร. คาร์ลอส คอร์เดโร ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสหรัฐฯ และ มร. นีล บูธ หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร
สำหรับการมาในครั้งนี้ ทางคณะ UCO ได้นำเสนอแผนงานในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 ที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง ประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก
ซึ่งหลังจบการนำเสนอ คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และโฆษกสมาคมฯ กล่าวว่า “วันนี้ทางคณะกรรมการนำเสนองานเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026 จากโซนอเมริกาเหนือ ได้เดินทางมาเพื่อนำเสนอแผนงาน ซึ่งจะมีการลงคะแนนเสียงจากประเทศสมาชิกของฟีฟ่าทั้งหมด”
“โดยการลงคะแนนเสียงจะมีขึ้นในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ซึ่งประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่มีสิทธิ์เลือก ซึ่งตอนนี้มีสองกลุ่มที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ คือกลุ่มจากโซนอเมริกาเหนือ และ ประเทศโมร็อกโก โดยก่อนหน้านี้ ทางโมร็อกโก ก็ได้นำเสนอวิสัยทัศน์กับทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“วันนี้ทางสหรัฐฯได้เข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ โดยจะมี 3 ประเทศเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งทางสหรัฐอเมริกา ก็มีขนาดประเทศที่ใหญ่และพร้อมสำหรับการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ทางสมาคมฯ เองก็พร้อมจะรับฟังแล้วมองสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับวงการฟุตบอล”
“ก่อนหน้านั้นในฟุตบอลโลก 2002 มีญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ที่จับมือกัน และตอนนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ 3 ประเทศในการจัดแข่งขัน เท่ากับภาระของแต่ละประเทศจะน้อยลง จากที่ในอดีต 1 ประเทศ จะต้องมี 16 สนาม เพื่อรองรับตัวแทน 48 ชาติที่เข้าร่วม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก”
“แต่ถ้าแบ่งเป็น 3 ประเทศ ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้การร่วมมือกันมากกว่า 2-3 ประเทศจะเกิดขึ้นในอนาคต และสร้างโอกาสให้กับประเทศเล็กๆ ในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพ นี่คือสิ่งที่เขามานำเสนอในวันนี้”
ขอขอบคุณ : Fair