ข่าวฟุตบอลสื่อออสซี่สัมภาษณ์ เบนจามิน ตัน ถึงการพัฒนาฟุตบอลลีกของไทย
โพสต์รูปภาพ
เบนจามิน ตัน

 

SBS Television สถานีโทรทัศน์ในประเทศออสเตรเลีย สัมภาษณ์ เบนจามิน ตัน รองประธานฝ่ายบริหาร บริษัท พรีเมียร์ลีก ไทยแลนด์ (จำกัด) ถึงปัจจัยต่างๆของฟุตบอลลีกในประเทศไทย ที่ส่งผลถึงการพัฒนาทีมชาติ

ก่อนเกมทีมชาติไทยจะพบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย สื่อหลายสำนักได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาฟุตบอลลีกของไทย และได้สัมภาษณ์กับ มิสเตอร์ เบนจามิน ตัน ที่เคยมีตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการด้านการแข่งขันสโมสรของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ตั้งแต่ปี 2008-2015 ก่อนจะก้าวเข้ามารับงานเป็นรองประธานฝ่ายบริหารของบริษัท พรีเมียร์ลีก ไทยแลนด์ เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผานมา

โดยสื่อดังกล่าว ชี้ว่า แม้ทีมชาติไทยจะอยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่มในการแข่งชันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 ด้วยการไม่มีแต้มในสี่เกมแรก ก่อนที่จะพบกับ ออสเตรเลีย แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในช่วงรอบปีที่ผ่านมา

ไม่ใช่แค่การเข้ารอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2002 แต่พวกเขายังประสบความสำเร็จอีกมากมาย ดูจากความสำเร็จของทีมชาติไทย ทั้งการคว้าแชมป์ซีเกมส์ในปี 2013 และ 2015 ,แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014, การเข้ารอบรองชนะเลิศของเอเชียน เกมส์ 2014 รวมถึงทีมหญิงที่คว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปีก่อน

 

ในระดับสโมสร ไทยลีกเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะยอดทีมอย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ผลัดกันคว้าแชมป์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แต่ไทยลีกยังมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีหลายสโมสรที่ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ อาทิ แบงค็อก ยูไนเต็ด, บางกอกกล๊าส และ สุพรรณบุรี โดยปีที่ผ่านมา แบงค็อก ยูไนเต็ด ขับเคี่ยวกับเมืองทองในการลุ้นแชมป์ตลอดทั้งฤดูกาล

“ลีกของเรากำลังแข็งแกร่ง และน่าตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ” เบนจามิน ตัน รองประธานฝ่ายบริหารของ PLT กล่าวเริ่มกับ SBS

“ผมคิดว่า แบงค็อก ยูไนเต็ด รวมถึง บางกอกกล๊าส จะก้าวขึ้นไปมีลุ้นแชมป์มากขึ้น รวมถึงอีกหลายสโมสร อย่างเช่นเชียงราย ยูไนเต็ด ที่กำลังเสริมทีมสำหรับฤดูกาลใหม่และถือเป็นข่าวใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา”

 

นอกจากนี้ตันยังเชื่อว่า ลีกที่พัฒนาขึ้น ทั้งเรื่องความสนุก, แฟนบอล และ เจ้าของสโมสร ซึ่งทั้งหมดน่าจะมาจากการลงนามข้อตกลงกับเจลีก ตั้งแต่ปี 2012 ที่มีส่วนช่วยอย่างต่อเนื่องให้ลีกมีความเป็นมืออาชีพ

“ผมคิดว่าการลงบันทึกข้อตกลงกับเจลีก เป็นการช่วยกันประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมาเราได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาเจลีก และให้พวกเขากลับมาพร้อมไอเดียในการปรับปรุงฟุตบอลลีกของไทย”

“นอกจากนี้เรายังทำงานร่วมกับเอเอฟซีและฟีฟ่า ในการวางแผนเชิงกลยุทธ์สี่ปี โดยมีสี่ เสาหลักคือการสร้างองค์กรให้มีความเสถียรภาพทางการเงิน ,สร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับนักกีฬา, การฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในสมาคม และการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง นี่จึงเป็นโครงการที่จะนำสมาคมฟุตบอลและฟุตบอลไทยไปสู่อนาคต”

 

ไทยลีก ณ ปัจจุบัน กลายเป็นลีกที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขายังความคิดที่จะพัฒนาฟุตบอลทั่วทั้งภูมิภาค โดยล่าสุดพวกเขาเพิ่งประกาศกฏโควต้านักเตะต่างชาติใหม่สำหรับฤดูกาล 2018 ที่จะให้แต่ละสโมสรนำผู้เล่นจากอาเซียนมาเพิ่ม

“เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน เราต้องการดึงนักเตะชั้นนำและให้โอกาสนักเตะเหล่านั้น ทดสอบตัวเองในไทยลีก เราพยายามทำให้ลีกของเราเติบโตขึ้นไป โดยเฉพาะเชิงพาณิชย์นั้นเป็นเหตุผลหลักที่เราเปิดให้มีโควต้าสำหรับนักฟุตบอลอาเซียน”

วิสัยทัศน์ของตันเขาคิดไปไกลกว่าแค่ในอาเซียน เขาต้องการให้ไทยลีกมีชื่อเสียงไปทั่วโลก นั่นหมายความว่า เขาให้ความสำคัญในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อดึงดูดบรรดาแฟนบอลใหม่ๆเข้ามา

“ผมเชื่อว่าลีกไทยจะต้องดูและศึกษาจากลีกต่างๆทั่วโลก เราพยายามช่วยเหลือสโมสรในการประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ เหมือนอย่างที่ชลบุรี, เมืองทอง และ สุพรรณบุรีทำ ซึ่งเราหวังว่าเราจะได้ช่วยแนะนำให้กับสื่อในสโมสรอื่นๆ”

“เรากำลังร่วมงานกับสื่อของแต่ละสโมสรในประเทศ โดยเฉพาะในปีถัดไปที่จะเราต้องการให้ลีกของเรามีความสากลมากขึ้น โดยการให้สื่อออกแบบประชาสัมพันธ์ข่าวเป็นภาษาอังกฤษบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ และสื่อในโซเชียลมีเดียต่างๆ”

 

นอกจากภาพลักษณ์ที่ดีของลีก ซึ่งมีผู้เล่นทีมชาติหลายคนค้าแข้ง ตัน กล่าวว่าแผนงานทั้งหมดจะยังช่วยให้ทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง

“ฟอร์มการเล่นของทีมชาติ มักสะท้อนให้เห็นถึงระบบของลีกในประเทศ เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ลีกมีความตื่นเต้น มีขีวิตชีวา เราจำเป็นต้องเก็บข้อมูลทั้งหมด เพื่อพัฒนาและทำให้ลีกเติบโตขึ้น เพื่อเป้าหมายในการพัฒนาทีมชาติ”

“ผลลัพธ์ที่ในเกมที่ไทยจะพบกับออสเตรเลีย ในคืนวันอังคารนี้จะช่วยให้เห็นภาพลักษณ์ต่างๆชัดเจนขึ้น”

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : thaileague