สวนกุหลาบวิทยาลัย เข้าไปยืนรอรอบชิงศึกลูกหนังจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 เป็นทีมแรกหลังเอาชนะ อัสสัมชัญ 2-0
ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 13 พ.ย. เป็นการเล่นนัดที่ 2 คู่แรก “ชมพูฟ้า” สวนกุหลาบวิทยาลัย ที่เกมแรกเฉือน กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย 2-1 พบ “อินทรีแดง” อัสสัมชัญ ที่แพ้ เทพศิรินทร์ 3-4 เกมครึ่งแรกเล่นกันท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ เสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังสวนกุหลาบกลับมาครองเกมได้เหนือกว่าอัสสัมชัญ ที่ดูอ่อนแรงลงชัดเจน ก่อนมาได้ 2 ประตูซ้อน จาก “เจ้าพี” พีรธัช แพรพันธ์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ มนตรี แพรพันธ์ อดีตนักเตะทีมชาติไทย นาที 60 และ 69 ก่อนเป็นฝ่ายชนะ 2-0 เก็บ 6 คะแนนเต็มได้สำเร็จ
คู่หลัง “ลูกแม่รำเพย” เทพศิรินทร์ เจ้าภาพ พบ “ชงโคสีม่วง” กรุงเทพคริสเตียน เกมนี้ทั้ง 2 ทีมต่างปรับทัพจากเกมแรกค่อนข้างเยอะ โดยเทพศิรินทร์เปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 5 ตำแหน่ง พักตัวหลักในแดนหน้าอย่าง ปภาวิชญ์ ต่ออ่อน กับ ศ็อฟฟาน สันหรน ไว้ข้างสนาม ขณะที่กรุงเทพคริสเตียนก็ไม่น้อยหน้า เปลี่ยนผู้เล่นจากนัดแรกถึง 4 คน
เกมครึ่งแรก ทั้งคู่เปิดเกมแลกกันชนิดถึงลูกถึงคน โดยต้นเกมกรุงเทพคริสเตียนใช้การเพรสซิ่งกดดันครองเกมได้ดีกว่า จนเทพศิรินทร์ต้องแก้เกมตั้งแต่ 20 นาทีแรก ส่ง ปภาวิชญ์ ต่ออ่อน ลงมาพลิกเกม เป็นฝ่ายครองบอลได้มากขึ้น แต่ยังไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง เทพศิรินทร์ปรับหมากอีกครั้ง ส่ง ศ็อฟฟาน สันหรน ลงมาหวังลุยแหลก ทำให้เกมกลับมาสูสี ผลัดกันรุกรับ ท่ามกลางกองเชียร์ที่หนุนสถาบันตัวเองกันลั่นสนาม นาที 72 กรุงเทพคริสเตียนหวิดขึ้นนำ จากการยิงฟรีคิกระยะ 30 หลาของ ธนวัตน์ ดีเลิศ บอลพุ่งทำท่าเสียบคาน แต่ ณัฐพล สวนสาร นายทวารเทพศิรินทร์ โชว์ซูเปอร์เซฟลอยตัวปัดออกไปได้ ทำให้ครบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
ทำให้สถานการณ์หลังเตะ 2 นัด สวนกุหลาบ ซึ่งมี 6 แต้มเต็ม นำเป็นจ่าฝูงผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแน่นอนแล้ว ส่วนเทพศิรินทร์ มี 4 แต้ม เกมนัดสุดท้ายวันที่ 15 พ.ย. ที่จะพบกับสวนกุหลาบ เป็นคู่หลัง เวลา 16.00 น. ขอแค่เสมอก็จะเข้าชิง ขณะที่กรุงเทพคริสเตียน ที่มี 1 แต้ม หลังพิงฝา นัดสุดท้ายพบ อัสสัมชัญ ที่จะเล่นเป็นคู่แรก เวลา 13.00 น. ต้องชนะสถานเดียว และลุ้นให้เทพศิรินทร์แพ้ จึงจะมีลุ้นเข้ารอบ ด้านอัสสัมชัญที่แพ้รวด ตกรอบ ได้แค่ชิงอันดับ 3 แน่นอนแล้ว