ข่าวฟุตบอล ไทยลีกสมาคม สั่งปรับแข้งเชียงใหม่ร่วมหมื่น , แบนโค้ชเตี๊ย 2 นัด เหตุด่าผู้ตัดสิน
โค้ชเตี๊ย
สมาคม
โค้ชเตี๊ย

สมาคม กีฬาฟุตบอลฯ สั่งปรับแข้งเชียงใหม่ร่วมหมื่น พร้อม แบน โค้ชเตี๊ย กุนซือแอร์ฟอร์ซ 2 นัด เหตุด่าผู้ตัดสิน

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 เวลา 10.00 น. คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปภัมภ์ จัดการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ครั้งที่ 21/2560 ณ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ศูนย์กีฬาหัวหมาก กรุงเทพมหานครฯ โดยมีนายกฤตเมต เอ่งฉ้วนธาดา เป็นประธานในที่ประชุม โดยมีเรื่องพิจารณา ดังนี้

การแข่งขันฟุตบอล เอ็ม-150 แชมป์เปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2)

1. วันที่ 5 กรกฎาคม 2560
สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี กับ สโมสรบางกอก เอฟซี

เหตุการณ์
ในนาทีที่ 4 ของการแข่งขัน ผู้เล่นหมายเลข 4 นายธีระพงศ์ ดีหามแห สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ได้เจตนาใช้เท้าขวายันเข้าไปที่ต้นขาของผู้เล่นหมายเลข 16 นายกรรณ กลีบผึ้ง สโมสรบางกอก เอฟซี เนื่องจาก นายกรรณ กลีบผึ้ง ได้เข้าทำฟาวล์ใส่นายธีระพงศ์ ดีหามแห จึงทำให้ นายธีระพงศ์ ดีหามแห ไม่พอใจ

ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ได้พิจารณาจากรายงานของฝ่ายจัดการแข่งขัน และคลิปเหตุการณ์ จึงมีมติเอกฉันท์ เห็นว่า ผู้เล่นหมายเลข 4 นายธีระพงศ์ ดีหามแห สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.1.2 (1) พักการแข่งขัน 2 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท แต่ในกรณีการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เอ็ม-150 แชมป์เปี้ยนชิพ จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 13,333 บาท

2. วันที่ 5 กรกฎาคม 2560
สโมสรนครปฐม ยไนเต็ด กับ สโมสรแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี

เหตุการณ์
ในนาทีที่ 86 ของการแข่งขัน ผู้เล่นระหว่างสองสโมสรเกิดการปะทะกันเกิดขึ้น ผู้ตัดสินจึงเป่าเป็นลูกทำฟาวล์ จึงทำให้นาย สะสม พบประเสริฐ ของสโมสร แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี ไม่พอใจผู้ตัดสิน จึงใช้ถ้อยคำหยาบคายกับผู้ตัดสิน ซึ่งผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 แจ้งให้ผู้ตัดสินทราบ จึงได้เชิญหัวหน้าผู้ฝึกสอนดังกล่าวออกจากเขตเทคนิค

ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ได้พิจารณาจากรายงานของผู้ตัดสิน จึงมีมติเอกฉันท์ เห็นว่า นายสะสม พบประเสริฐ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ หลายฐานความผิด แต่คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท เห็นว่าการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำต่อเนื่อง และมีเจตนาด่าผู้ตัดสิน จึงมีบทลงโทษสูงสุดเพียงบทเดียวคือบทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.7 ห้ามลงทำหน้าที่ครั้งต่อไป 2 นัดและปรับเงิน 40,000 บาท แต่ในกรณีการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เอ็ม-150 แชมป์เปี้ยนชิพ จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 26,666 บาท

3. วันที่ 5 กรกฎาคม 2560
สโมสรอ่างทอง เอฟซี กับ สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี

เหตุการณ์ที่ 1
หลังจากจบการแข่งขัน นายรัตนศักดิ์ วิเศษสิงห์ เจ้าหน้าที่มีเดียของสโมสรอ่างทอง ยูไนเต็ด ได้ไปแจ้งผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ของสโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี เพื่อเข้าร่วมการแถลงข่าวหลังจบการแข่งขัน แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงไม่มีผู้ฝึกสอนหรือไม่มีเจ้าหน้าที่ของสโมสร หนองบัว พิชญ เอฟซีคนใด เข้าร่วมในการเป็นตัวแทนในการแถลงข่าวหลังจบเกมการแข่งขัน ส่วนของสโมสร อ่างทอง เอฟซี ได้มีหัวหน้าผู้ฝึกสอนเข้าร่วมในการแถลงข่าว

ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ได้พิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน จึงมีมติเอกฉันท์ เห็นว่า สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.2 ปรับเงิน 20,000 บาท แต่ในกรณีการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เอ็ม-150 แชมป์เปี้ยนชิพ จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 13,333 บาท

เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 42 ของการแข่งขัน ในขณะที่ผู้เล่นของสโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี กำลังเริ่มเล่นจากลูกทุ่มเข้าสู่สนาม ได้มีสุนัข 1 ตัววิ่งเข้ามาในบริเวณสนาม จึงทำให้ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมไปประมาณ 1 นาที หลังจากนั้น สุนัขได้วิ่งออกจากสนามไปด้านทิศใต้ของสนาม ผู้ตัดสินจึงให้สัญญาณผู้เล่นเริ่มเล่นต่อได้

ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ได้พิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน และ ภาพเหตุการณ์ จึงมีมติเอกฉันท์ เห็นว่า สโมสรอ่างทอง เอฟซี ทีมเหย้า มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.1.6 ปรับเงิน 10,000 บาท แต่ในกรณีการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เอ็ม-150 แชมป์เปี้ยนชิพ จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 6,666 บาท

การแข่งขันรายการยูโร่ เค้ก ลีก โปร (ไทยลีก 3)

วันที่ 5 กรกฎาคม 2560
สโมสร มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เอฟซี กับ สโมสร แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด

เหตุการณ์
ตลอดการแข่งขันต้นเกมส์ นายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรแกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ได้มีเสียงคัดค้านการตัดสินตลอดเวลา ซึ่งบางจังหวะทางทีมแกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ดได้ฟาล์ว ก็ยังมีเสียงตลอดเวลา จนในนาทีที่ 30 ของการแข่งขัน จังหวะที่ผู้เล่นแกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด กำลังทำเกมรุกด้านริมเส้นฝั่งหน้าผู้ตัดสินที่ 4 ซึ่งผู้เล่นของทีม ม.เกษมบัณฑิต ไปกระทำฟาล์วผู้เล่น แกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ซึ่งบอลได้ทะลุไปข้างหน้า ผู้ตัดสินกำลังพิจารณาว่า จะให้เป็นจังหวะได้เปรียบหรือไม่ พอเห็นว่าไม่ได้เปรียบ จึงเป่าฟาวล์ในทีมแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด และก็มีเสียงออกมาจากซุ้มนั่งสำรองทีมแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ซึ่งผู้ตัดสินหันไปเห็น ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ยืนอยู่ ผู้ตัดสินจึงให้สัญญานมือ ว่าให้นั่งลง แต่ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด เดินออกมาชี้หน้าผม แล้วด่า ผู้ตัดสินจึงวิ่งไปที่เกือบถึงเส้นข้างสนาม บริเวณหน้าซุ้มม้านั่งของทีมแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด เพื่อจะตักเตือน แต่ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ได้เดินออกจากเขตเทคนิคเข้ามาในสนามตรงที่ผมยืนอยู่แล้วด่าอีกครั้ง ผู้ตัดสินจึงเชิญประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์แล้วกลับมาเริ่มดำเนินการแข่งขันต่อ

คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ได้พิจารณาจากรายงานผู้ควบคุมการแข่งขันและผู้ตัดสิน คลิปประกอบเหตุการณ์ พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ตัดสิน แล้วเห็นว่าการกระทำของ นายวรานนท์ เกลือนสิน ประธานสโมสรแกรนด์ อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ มีหลายฐานความผิด แต่คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่อเนื่องกันคือเจตนาเพื่อต้องการเข้าไปด่าว่าผู้ตัดสิน จึงมีมติเอกฉันท์ให้ลงโทษตามระเบียบฯ ข้อที่มีบทลงโทษสูงสุดเพียงบทเดียว คือ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.7 ห้ามลงทำหน้าที่ครั้งต่อไป 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ “ยูโร่ เค้ก ลีก โปร” (ไทยลีก 3) จึงลงโทษปรับเงินหนึ่งในสามของอัตราที่กำหนดไว้ เป็นเงิน 13,333 บาท

ติดตามข่าวทีม เลสเตอร์ และ ไฮไลท์ คลิ๊ก เลสเตอร์