ข่าวฟุตบอล ไทยลีกสมาคมฯ จับมือสำนักงานตำรวจ แถลงข่าวจับกุม 12 ผู้พัวพันกับการล็อคผลบอล
ล็อคผลการแข่งฟุตบอล
ล็อคผลการแข่งฟุตบอล
ล็อคผลการแข่งฟุตบอล

สมาคมฯ จับมือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวจับกุม 12 ผู้เกี่ยวพันการล็อคผลการแข่งฟุตบอล

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 เวลา 14.00 น. ที่ห้องศรียานนท์ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการแถลงข่าวการจับกุม 12 บุคคลที่มีรายชื่อพัวพันกับการล็อคผลการแข่งขันล่วงหน้า หรือล็อคผลบอล
โดยการแถลงข่าวครั้งนี้ ประกอบด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล, พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลและ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำหรับ บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 12 ราย ที่ศาลศาลออกหมายจับ ประกอบด้วย นักฟุตบอลอาชีพ 5 ราย คือ 1.นายสุทธิพงษ์ เหลาพร นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี 2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตูทีมราชนาวี เอฟซี 3.นายสุวิทยา นำสินหลาก นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี 4.นายเสกสันต์ ชาวทองหลาง นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี และ 5.นายวีระ เกิดพุดชา ผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

โดยกลุ่มนักฟุตบอล มีความผิดตามพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ มาตรา 65 เป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้มีการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท

กรรมการผู้ตัดสิน ระดับฟีฟ่า 1 ราย คือ นายภูมิรินทร์ คำรื่น มีความผิดตามพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ มาตรา 67 เป็นผู้ตัดสิน เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่เที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 3-6 แสนบาท

ผู้ช่วยผู้ตัดสิน (ไลน์แมน) 1 ราย คือ นายธีรจิตร สิทธิศุข มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพมาตรา 64 และ 65 ร่วมกันให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬาและเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท

ผู้บริหารสโมสร 1 ราย คือ นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพมาตรา 64 และ 65 ร่วมกันให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬาและเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท

กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน 4 ราย คือ 1.นายวัลลภ สมาน 2.นายกิตติภูมิ ปาภูงา 3.นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ และ 4.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล โดยทั้งหมดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และพ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพมาตรา 64 และ 65 ร่วมกันให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬาและเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ 2-5 แสนบาท

ข้อมูล  Fair