ข่าวฟุตบอลสถิติมีไว้ทำลาย ว่าแต่ใครจะหยุดเขาได้ ”กิเลนผยอง”
โพสต์รูปภาพ
SCG เมืองทอง , สถิติ

นับจากวันที่เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบกับความปราชัยในบ้านต่อแบงค็อก ยูไนเต็ด 2-3 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ก่อนหน้านี้ จากนั้นพลพรรคกิเลนผยองก็ไม่แพ้ใครอีกเลย มิหนำซ้ำพวกเขายังชนะมารวด 10 นัดในลีก และอีก 2 นัดในบอลถ้วย ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่าแล้วอย่างนี้ทีมไหนจะหยุดเมืองทองฯ ได้

อย่าเพิ่งคิดว่าบทความนี้จะเป็นบทความอวยทีมกิเลนผยอง แต่อย่างใดนะครับ กรุณาทำใจให้เป็นกลางก่อนอ่านบทความนี้ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องอ่าน ขอบคุณทุกท่านครับ แต่ถ้าใครเข้ามาอ่านด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีอคติใดๆ ในหัวใจก็รับเชิญอ่านเพื่อความบรรเทิงหฤหรรษ์ได้ตามอัธยาศัยครับผม ซึ่งเมื่อฤดูกาลที่แล้วจำได้ว่าผมก็เขียนถึงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน ที่พวกเขากลายเป็นทีมไร้เทียมทานเมื่อฤดูกาลก่อน

เอาละครับเกริ่นนำให้ได้มีความเข้าใจตรงกันก่อนนำเข้าสู้เนื้อหา เพราะทุกวันนี้คนเก่งในโลกออนไลน์มันเยอะ พวกเกรียนพวกขวางโลกมันก็อยู่กันเต็มไปหมด ย้ำว่าถ้าไม่ชอบ หรืออะไรไม่ถูกใจก็ไม่ต้องอ่านครับผม และที่ต้องเขียนถึงทีมเอสซีจี เมืองทองฯ ในลักษณะแบบนี้ก็เป็นเพราะผลงานในช่วงหลังที่เกิ ดขึ้นมันยอดเยี่ยมจริงๆ หรือใครจะเถียงครับว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น

ผ่านไปแล้ว 15 เกมของเลกแรกในศึกโตโยต้าไทยลีก ฤดูกาลนี้ ทีมจ่าฝูงยังคงเป็น “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ยังคงรักษาบัลลังก์เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้จะถูกทีมเมืองหลวงอย่างแบงค็อก ยูไนเต็ด หายใจรดต้นคอแบบติดๆ ก็ตาม โดยตอนนี้เมืองทองฯ มีอยู่ 39 คะแนน ส่วนแข้งเทพมีอยู่ 37 คะแนน ส่วนทีมที่ตามมาอันดับ 3 และ 4 อย่างบีจี และแชมป์เก่าบุรีรัมย์ ก็มีอยู่ 30 และ 28 คะแนนตามลำดับ ซึ่งเรื่องของการลุ้นแชมป์ก็คงจะวัดกันยาวๆ จนจบฤดูกาล และผมมั่นใจว่าจะมีแค่สองทีมที่ลุ้นแชมป์กันก็คือเอสซีจี เมืองทองฯ และ แบงค็อก ยูไนเต็ด

พูดถึงทีมกิเลนผยองเอง ตอนนี้พวกเขาชนะในลีกมาแล้ว 10 นัดติดต่อกัน ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมถึงยอดเยี่ยมมากๆ และไม่มีทีท่าว่าจะมีทีมไหนมาหยุดพวกเขาได้ แม้จะมีบางเกมที่ดูเหมือนจะทำได้แค่เสมอ บางเกมถูกคู่แข่งนำไปก่อน แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดและกลับมาเป็นผู้ชนะได้ตลอด ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของทีมที่จะเป็นแชมป์ แต่หากจะบอกว่าทีมเอสซีจี เมืองทองฯ จะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ก็คงจะเร็วเกินไป แต่ด้วยความเป็นจริงแล้วมันคงไม่มีอะไรผิดไปจากนี้

ถ้าได้ดูผลงานของทีมกิเลนผยองในแต่ละแมตช์จะเห็นได้ว่าทุกอย่างค่อนข้างจะลงตัว ผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งเรื่องของขุมกำลังก็คงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ อย่างที่เรารู้กันว่าขุมกำลังหลักของเอสซีจี เมืองทองฯ ก็อุดมไปด้วยผู้เล่นทีมชาติ ตั้งแต่แนวรับยันแนวรุก ทำให้ดูจะแกร่งทั่วแผ่นอย่างปฏิเสธไม่ได้ และเมื่อทีมไหนเจอเมืองทองฯ เวลานี้ก็ต้องร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า “โอ่วววววว แย่ๆๆๆๆๆๆ”

ก็อาจจะมีแฟนบอลทีมอื่นๆ บอกว่ารอให้เลกสองเริ่มขึ้นก่อน ซึ่งทุกทีมจะได้เสริมแกร่ง บางทีอาจจะมีทีมที่พร้อมจะขึ้นมาหยุดเมืองทองฯ ก็ได้ อย่างบุรีรัมย์ เองก็ถือว่าน่ากลัวที่จะได้ ดิโอโก้,บรูโน่ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส ได้ตัวดาวรุ่งดังๆ เข้ามาเสริมมากมายในเลกสอง ก็น่าจะทำให้ทีมกลับมาผงาดอีกครั้ง หรือแม้กระทั่งทีมอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ถือว่าน่าจับตามองสุดๆ ที่ได้นักเตะอย่าง ฐิติพันธ์,บดินทร์,ประทุม,มงคล และกองหน้าแดนจิงโจ้ เข้ามาเสริม เรียกได้ว่าเสริมโหดมากสำหรับกว่างโซ้งในเลกสอง ก็น่าจะมีโอกาสเป็นอีกทีมที่ขึ้นมาเบียดลุ้นแชมป์

ขณะเดียวกันทีมอย่างแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เป็นรองจ่าฝูงในเวลานี้ก็จะประมาทไม่ได้เช่นกัน ล่าสุดเพิ่งจะเปิดตัว กิลแบร์โต้ มาเชน่า อดีตหัวหอกทีมบุรีรัมย์ มาเสริมความอันตรายในแดนหย้าอีกคน ทั้งๆ ที่มีอยู่ตอนนี้ก็โหดอยู่แล้ว มันก็จะโหดเพิ่มขึ้นไปอีก ทุกทีมก็มีการเสริมแกร่งกันชนิดที่เรียกได้ว่าทุ่มกันสุดขีด แต่ก็อย่าลืมว่าทีมกิเลยผยองเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ

แม้จะเสียตัวดีๆ อย่าง ฐิติพันธ์,อาทิตย์ ออกไปจากทีม แต่พวกเขาก็ได้ ธีราทร บุญมาทัน เข้ามาแล้วหนึ่งราย ซึ่งแฟนบอลอุลตร้าเมืองทองฯ ก็ต่างรอคอยการลงสนามอย่างเป็นทางการของกัปตันอุ้มในสีเสื้อเมืองทองฯ อย่างใจจดใจจ่อ และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือข่าวการมาของ ซูมาโฮโร่ ยาย่า ที่จะกลับมาโชว์เพลงแข้งในถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม อีกครั้ง แม้จะยังเป็นแค่ข่าวก็ตาม แต่ถ้ามาจริงก็ถือว่า ความน่ากลัวก็จะเพิ่มทวีคูณเข้าไปอีก ซึ่งถ้าไม่แชมป์ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

เลกแรกเหลือโปรแกรมการลงสนามอีก 2 แมตช์ ก็คงไม่น่ามีปัญหาที่เอสซีจี เมืองทองฯ จะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปไว้ได้ จากนั้นช่วงปลายเดือนมิถุนายน เลกสองก็จะลงเตะต่อเนื่องทันที ซึ่งก็คงไม่น่ามีปัญหาเช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตามแม้ดูเหมือนตำแหน่งแชมป์ไทยลีกจะถูกจองโดยเอสซีจี เมืองทองฯ (ด้วยผลงานที่เห็นกันอยู่) แต่ก้ใช่ว่าทีมอื่นๆ จะไม่มีโอกาส และความสนุกของฟุตบอลไทยลีกจะลดลงไป เพราะความมันส์ในแต่ละเกมแต่ละสัปดาห์ยังคงเหมือนเดิม

และปีนี้ก็เป็นปีที่มีการย้ายตัวสลับขั้วกันมากที่สุดตั้งแต่มีไทยลีกมา ตลาดไทยลีกไม่เคยคึกคักแบบนี้มาก่อน จะมีก็แต่การย้ายทีมของตัวดังๆ ที่ใกล้จะหมดสัญญากับทีมเก่า หรือนานๆ ทีก็จะมีตัวดังๆ ย้าย ซึ่งมันก็จะวนอยู่กับทีมใหญ่ไม่กี่ทีม แต่ฤดูกาลนี้ ตัวที่เราไม่คิดว่าจะย้ายก็ย้าย สลับสับเปลี่ยนกันจนงง เรียกได้ว่าเม็ดเงินสะพัดมากกับตลาดไทยลีกรอบสองที่ถึงตอนนี้ยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ แต่ย้ายทีมกันสนุกสนานมาก

เมื่อมาถึงตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป้าหมายหนึ่งเดียวของเอสซีจี เมืองทองฯ ก็คงต้องแชมป์ละครับ เพราะถ้าไม่แชมป์ก็ถือว่าล้มเหลว กับการทุ่มทุนสร้างขนาดนี้ อย่างที่ผมบอกว่าถ้าไม่เกิดฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็คงจะยากที่จะมีทีมไหนมากระชากแชมป์จากเอสซีจี เมืองทองฯ ในฤดูกาลนี้ ได้

แต่ที่น่าสนใจก็คือจากนี้เมืองทองฯ จะเก็บชัยชนะติดต่อกันไปแบบนี้เรื่อยๆ กี่นัด และจะมีทีมไหนที่จะเบรกพวกเขาได้หรือไม่ ก็ต้องรอติดตามกันไปครับ

ที่มา : มูซาชิ >> https://www.smmsport.com/reader.php?article=7055