“ตราไก่” ฝรั่งเศส พร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามเหมือนเดิม โดยแนวรุกยังคงใช้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้านัดดวลแข้งกับ โมร็อคโก ทีมม้ามืดตัวจริงในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ คืนวันที่ 14 ธ.ค.นี้
ความพร้อมของทั้งสองทีม ฝรั่งเศส VS โมร็อคโก ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ
ฝรั่งเศส VS โมร็อคโก
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดี้ยม
เวลา : 02.00 น.
ฝรั่งเศส
คาดว่ากุนซือ ดิดิเยร์ เดสชองส์ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เฉือนชนะ อังกฤษ 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เพื่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปลุ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว และตามหาทีมชุดที่ลงตัวที่สุดได้แล้วด้วย แนวรับพร้อมให้ ราฟาเอล วาราน ยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ แดนกลางรอเช็กฟิต อาเดรียง ราบิโอต์ แต่น่าจะได้ยืนคุมเกมร่วมกับ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ เพราะยังคงเป็น 2 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์เหมือนเดิม แนวรุกพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน เพื่อให้ 4 ประสานได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเดิม โดยเตรียมให้ อองตวน กรีซมันน์ สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม และวาง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ลงไปสวมบทเป็นปีกซ้าย ซึ่งตอนนี้นำเป็นดาวซัลโวด้วยจำนวน 5 ประตูอยู่แล้วด้วย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อุสมาน เดมเบเล่ ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนกองหน้าตัวเป้าพร้อมให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ลงเล่นเป็นตัวจริงจากการยิงไปแล้ว 4 ประตู
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อูโก้ ยอริส, ฌูลส์ กุนเด้, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ราฟาเอล วาราน, เตโอ แอร์กน็องเดซ, อาเดรียง ราบิโอต์, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
โมร็อคโก
คาดว่ากุนซือ วาลิด เรกรากี จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เฉือนชนะ โปรตุเกส 1-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เพื่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ไปเลย และไร้พ่ายจากการลงเล่นในทุกรายการมาแล้วถึง 10 เกมเลยด้วย หรือนับตั้งแต่ เรกรากี เข้ามารับงานคุมทีมเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นทีมม้ามืดของทัวร์นาเมนต์นี้ไปเลยด้วย แนวรับไม่น่าจะได้ นาเยฟ อาเกิร์ด หายเจ็บกลับมาลงสนาม และต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ โรแม็ง ซาอิสส์ แต่ว่าน่าจะฟิตกลับมายืนเป็นกองหลังคู่กับ จาวาด เอล ยามิค แดนกลางไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก 3 ประสานในนัดก่อน นั่นก็คือ อัซเซดีน ฮูนาไฮ, เซลิม อมัลลาห์ และ โซฟียาน อัมราบัต ลงไปยืนคุมเกมร่วมกันทั้งหมดเลย แนวรุกหมดสิทธิ์ใช้งาน วาลิด เชดดิร่า ติดโทษแบนจากการโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ ฮาคิม ซีเย็ค แต่น่าจะกลับมายืนประจำการในตำแหน่งปีกขวาได้อีกครั้ง โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โซฟียาน บูฟาล พร้อมสวมบทเป็นปีกซ้ายตามเดิม ส่วนในรายของ ยูสเซฟ เอ็น-เนเซรี่ พร้อมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ยาสซีน โบโน, โรแม็ง ซาอิสส์, จาวาด เอล ยามิค, ยาเฮีย อัตติยัต อัลลาห์, อัชราฟ ฮาคิมี่, อัซเซดีน ฮูนาไฮ, โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์, โซฟียาน บูฟาล, ยูสเซฟ เอ็น-เนเซรี่, ฮาคิม ซีเย็ค
ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ โมร็อคโก 2-1