อย่างที่เราเคยเกริ่นไปแล้วว่าช่วงปลายยุค 90 ดินาโมเคียฟสโมสรตัวแทนจากยูเครนนั้นทำผลงานดีในยูซีแอล นั่นทำให้ตัวชูโรงเบอร์ใหญ่อย่างอังเดร เชฟเชนโก้ย้ายออกไปรับใช้เอซีมิลานตั้งแต่ 1999 แล้วนั่นก็ทำให้แข้งเบอร์รองลงมาอย่างเซอร์เก เรบรอฟได้ย้ายมารับใช้ท็อตแน่มฮอตสเปอร์สในปีถัดมา
ปี 2000 สเปอร์สจ่ายเงิน 11 ล้านปอนด์คว้าตัวเรบรอฟเข้ามาเสริมทัพ ซึ่งถือเป็นดีลที่ฮือฮาพอสมควร เมื่ออดีตคู่หูอย่างเชฟเชนโก้ก็ผลงานดีกับมิลาน แฟนไก่เดือยทองจึงเชื่อเหลือเกินว่าเรบรอฟจะย้ายมาปังในอังกฤษได้เหมือนกัน วันที่ 5 กันยายน 2000 สเปอร์สเปิดบ้านรับเอฟเวอร์ตัน แล้วถึงแม้จะตกเป็นฝ่ายตามหลังถึงสองสกอร์ แต่ท้ายสุดพวกเค้าก็พลิกกลับมาชนะได้ 3-2 โดยเซอร์เก เรบรอฟเหมาคนเดียวสองประตู
เมื่อเห็นเรบรอฟปลดล็อคทำประตูได้หลังลงเล่นเกมลีกไปเพียง 4 เกม แฟนสเปอร์สก็ยิ่งมั่นใจว่าแนวรุกชาวยูเครนจะเป็นคนที่ใช่ น่าเสียดายที่มันไม่เป็นไปตามนั้น ทีมผลงานเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเช่นเดียวกับฟอร์มของเรบรอฟก็เดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย แม้ผลงาน 12 ประตูรวมทุกรายการสำหรับปีแรกในอังกฤษจะถือว่าไม่แย่นัก แต่มันมาชัดเจนในปีถัดมาว่าเรบรอฟนั่นเหมาะกับลีกผู้ดี เค้ายิงได้แค่ 3 เม็ดจากการลงเตะ 39 เกมรวมทุกรายการในฤดูกาล 2001/02 สเปอร์สจึงส่งตัวเรบรอฟให้เฟเนร์บาห์เชยืมตัวใช้งานไปจนกระทั่งหมดสัญญา เงิน 11 ล้านปอนด์กลายเป็นการลงทุนที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า แล้วเซอร์เก เรบรอฟก็เดินออกจากสโมสรไปแบบฟรีๆในปี 2004 เหลือทิ้งไว้เพียงผลงานยิงรวม 15 ประตูให้ดูต่างหน้า ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆสเปอร์สคงไม่ค่อยมีใครอยากจำ
