หลังจากแมนเชสซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2011/12 พวกเค้าก็วางแผนที่จะต่อยอดไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วยการหาผู้อำนวยการเทคนิคเพื่อเข้ามาดูแลเรื่องการเจรจาซื้อขายนักเตะโดยเฉพาะ เนื่องจากก่อนหน้านั้นทัพเรือใบเองเน้นเสริมทัพแบบเน้นตัวดังๆแพงๆแล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่ซื้อเข้ามาแล้วจะทำผลงานได้ตามเป้า
วันที่ 28 ตุลาคม 2012 แมนเชสเตอร์ซิตี้ประกาศแต่งตั้งซิกิ เบกิริสไตน์อดีตผู้อำนวยการเทคนิคที่สร้างความสำเร็จกับบาเซโลน่า ด้วยผลงานการการเจรจาคว้าตัวซามูเอล เอโต้,เธียรี่ อองรี,เซดู เกอิต้า,ดานี่ อัลเวซและดาวิด บีญ่า เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิคคนใหม่ แล้วไบรอัน มาร์วู๊ดผู้อำนวยการเทคนิคคนเดิมก็ผันไปเป็นกรรมการผู้จัดการอะคาเดมี่แทน
นับจนถึงปัจจุบันด้วยการดูแลงานหลังบ้านของเบกิริสไตน์ทำให้แมนเชสเตอร์ซิตี้กวาดแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เพิ่มอีกถึง 5 สมัย แถมดีลที่เค้าดำเนินการก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับแมนซิตี้ได้อย่างเห็นผล ไม่ว่าจะเป็นเควิน เด บรอยด์,แบร์นาโด้ ซิลวา,ริยาร์ด มาเรซ,เอเมริค ลาร์ป็อก,รูเบน ดิอาซ,เจา กานเซโล่,ฮูเลี่ยน อัลบาเรซและเออริ่ง เบราส์ ฮาแลนด์ ด้วยเครดิตตรงนี้ยังทำให้เบกิริสไตน์ได้รับรางวัลผู้อำนวยการกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี 2021 จากโกล็บ ซอคเกอร์ อวอร์ดอีกด้วย พูดได้เต็มปากว่าไม่เพียงแค่เป๊ป กวาร์ดิโอล่าเท่านั้นที่มีเครดิตในการผงาดขึ้นมาประสบความสำเร็จของแมนซิตี้ แต่เครดิตอีกส่วนก็ต้องแบ่งให้กับการดูแลจัดการงานหลังบ้านของซิกิ เบกิริสไตน์ด้วย
