แฟนบอลยุคปัจจุบันอาจเข้าใจว่าบาเซโลน่านั้นเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอยู่บ่อยครั้ง โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วพวกเค้าต้องล้มลุกคลุกคลานในรายการนี้มานานกว่าจะได้สัมผัสแชมป์แรกในปี 1992
ด้วยความที่คู่ปรับตลอดกาลอย่างรีลมาดริดผงาดคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพได้ถึง 5 สมัยรวดในยุค 50 ทำให้บาเซโลน่ามีความพยายามที่จะคว้าใบนี้ให้ได้กับเค้าบ้าง แล้วอันที่จริงทัพเจ้าบุญทุ่มกฌเคยทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จตั้งแต่ยุค 60 (ปี 1961)แต่ก็ต้องแพ้ให้กับเบนฟิก้าไป 2-3 แล้วในการเข้าชิงครั้งที่สองในยุค 80 (ปี1986)บาเซโลน่าก็ยังแพ้จุดโทษให้กับทีมรองบ่อนอย่างสเตอัว บูคาเรสซ์อีกครั้ง ทำให้ถ้วยยูโรเปี้ยนส์คัพดูเหมือนจะกลายเป็นของแสลงของทัพอัลซูนกราน่าไปเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามบาเซโลน่าก็ยังคงเดินหน้าลุยถ้วยใบนี้อย่างไม่ลดละ และมีลุ้นที่จะได้ถ้วยใบนี้อีกครั้งในฤดูกาล 1991/92 บาเซโลน่าปราบสองทีมจากเยอรมันอย่างฮันซ่า รอสต็อคและไกเซอร์สเลาเทิร์นจนทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งในเวลาใช้การเตะแบบแบ่งกลุ่มเพื่อหาคู่ชิงชนะเลิศ ซึ่งบาเซโลน่าคว้าแชมป์กลุ่ม B ได้สำเร็จจนทำให้พวกเค้าได้หลุดเข้าชิงชนะเลิศถ้วยหูใหญ่สุดในยุโรปได้เป็นหนที่สาม
วันที่ 20 พฤษภาคม 1992 บาเซโลน่าลงชิงดำกับซามพ์โดเรีย แม้พวกเค้าจะยังทำประตูไม่ได้ใน 90 นาที แต่สุดท้ายโรนัล คูมันน์ก็ตะบันประตูโทนของเกมได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 112 พาบาเซโลน่าจบเกมด้วยชัยชนะ 1-0 และส่งผลให้ทัพเจ้าบุญทุ่มคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพได้สำเร็จเป็นครั้งแรกจนได้ แล้วการปลดล็อคครั้งนั้นก็ทำให้พวกเค้าคว้าถ้วยใบนี้ได้ซ้ำอีกหลายหน กระทั่งจนถึงปัจจุบันบาเซโลน่าคือทีมที่คว้าถ้วยหูใหญ่สุดของยุโรปได้มากสุดเป็นลำดับที่ 5 ด้วยการเป็นแชมป์ถึง 5 สมัย(ได้แชมป์เพิ่มในปี2006,2009,2011และ2015)