แม้เชลซีในยุคของเสี่ยหมี โรมัน อบราโมวิชจะคว้าถ้วยรางวัลมาได้มากมาย แต่สำหรับยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นพวกเค้าต้องรออยู่นานกระทั่งมาทำได้สำเร็จในปี 2012
หลังได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2004/05 เชลซีก็ผงาดขึ้นมาเป็นทีมระดับแถวหน้าของอังกฤษ แล้วสเต็บต่อไปที่พวกเค้าโฟกัสก็คือความสำเร็จในถ้วยหูใหญ่แห่งยุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ช่วงก่อนปี 2010 เชลซีเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ 4 ครั้งและเข้าชิงชนะเลิศ 1 หนแต่ก็ยังไม่ได้ชูถ้วย
กระทั่งฤดูกาล 2011/12 ที่เชลซีผลงานในลีกจะไม่สู้ดี หนำซ้ำยังมีปรับเปลี่ยนบทบาทผู้จัดการทีมกลางคันจากอังเดร วิลลาส-โบอาซมาเป็นโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ แต่ไม่น่าเชื่อว่าท่ามกลางปัญหาเหล่านั้นพวกเค้ากลับเดินแรงต่อเนื่องได้ใน UCL เชลซีผ่านรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์กลุ่ม ก่อนจะเข้าไปปราบนาโปลี,เบนฟิก้าและบาเซโลน่า จนเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศได้เป็นหนที่สอง
วันที่ 19 พฤษภาคม 2012 เชลซีโคจรมาพบกับบาเยิร์นมิวนิคในนัดชิงดำ แล้วอันที่จริงเชลซีก็เกือบจะแพ้ไปแล้วในเกม 90 นาที โชคยังดีที่ดิริเยร์ ดร็อกบามาช่วยยิงตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม ประตูดังกล่าวยื้อเชลซีให้ได้สู้ต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งผลปรากฏว่าก็ยังไม่มีใครยิงได้เพิ่ม ทำให้สุดท้ายต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ แล้วก็เป็นเชลซีที่แม่นกว่าเป็นฝ่ายชนะไปด้วยสกอร์รวม 4-3 ทำให้เชลซีได้คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
