โดยปกติที่ผ่านมาแข้งดาวรุ่งในโลกฟุตบอลก็มักจะเริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงวัย 16-18 ปี นั่นทำให้การลงเล่นฟุตบอลของเมาริซิโอ บัลดิเบโซ่เป็นที่พูดถึงไปทั่ว นั่นก็เพราะเจ้าหนูชาวโบลิเวียถูกส่งลงสนามในฟุตบอลลีกอาชีพด้วยวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น
วันที่ 19 กรกฎาคม 2009 ในการแข่งขันฟุตบอลโบลีเวีย เคลาซูร่า แชมเปี้ยนชิพระหว่างอูโรร่ากับลาปาซ เมาริซิโอ บัลดิเบโซ่ถูกเปลี่ยนตัวลงเล่นให้อูโรร่าในนาที 81 เกมวันนั้นจบลงด้วยชัยชนะ 1-0 ของฝั่งอูโรร่า แต่สิ่งที่โลกลูกหนังต่างตกใจคือการลงสนามของเจ้าหนูบัลดิเบโซ่ เนื่องจากในวันนั้นเค้าเพิ่งจะมีอายุเพียง 12 ปี 362 วันเท่านั้น ซึ่งถือเป็นนักฟุตบอลอายุน้อยที่สุดที่ลงแข่งขันฟุตบอลอาชีพ มีการพูดถึงเรื่องนี้ไปไกลถึงขนาดที่ว่าเจ้าหนูเมาริซิโอ บัลดิเบโซ่จะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์ดังในอนาคตเลยด้วยซ้ำ แต่กระแสความฮือฮาของเจ้าหนูรายนี้ก็หายวับไปทันทีเมื่อมีคนตามขุดคุ้ยที่มาของเรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ
มีการเปิดเผยตามมาว่าคนที่ตัดสินใจส่งเจ้าหนูบัลดิเบโซ่ลงเล่นในเกมวันนั้นก็คือกุนซืออูโรร่านามว่าฮูลิโอ เซซ่า บัลดิเบโซ่ ซึ่งเค้าก็คือพ่อบังเกิลเกล้าของเมาริซิโอ บัลดิเบโซ่ นั่นเท่ากับว่าการส่งเด็กวัยกระเตาะลงเล่นในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่านักเตะมีฝีเท้าโดดเด่นเกินวัยแต่มันเป็นเพียงการพยายามผลักดันลูกชายของคนเป็นพ่อ 5 วันให้หลังจากการประเดิมสนามของเจ้าหนูบัลดิเบโซ่ สโมสรอูโรร่ากับฮูลิโอ เซซ่า บัลดิเบโซ่ผู้เป็นพ่อก็แยกทางกัน มูลเห็นก็คือคณะกรรมการสโมสรอูโรร่าเล็งเห็นว่านี่เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ
ส่วนเส้นทางการค้าแข้งเมาริซิโอ บัลดิเบโซ่ก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แม้เค้าจะได้มีโอกาสติดทีมชาติโบลิเวียชุดอายุต่ำกว่า 20 ปีมาบ้างแต่ก็ได้มีผลงานอะไรโดดเด่นในการเล่นระดับสโมสร ภายหลังจากหมดสัญญากับซาน โฮเซ่ในปี 2018 ก็ไม่มีสโมสรไหนเซ็นสัญญากับเค้าอีกเลย ทำให้ ณ วันนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าเมาริซิโอ บัลดิเบโซ่ในวัย 25 ปีนั้นทำอะไรอยู่ แต่ที่พอจะรู้คือเค้าคงไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพอยู่เป็นแน่ ส่วนสถิติแข้งอายุน้อยสุดในการลงเล่นบอลอาชีพของเค้าก็โดนทำลายไปในปี 2011 เมื่อเอริค กอร์ดพาวเวอร์ มาร์แชลแข้งไลบีเรียถูกส่งลงสนามด้วยวัยเพียง 11 ปี