ในช่วงต้นยุค 90 ฝรั่งเศสถือเป็นชาติที่น่าเกรงขามในเชิงลูกหนังเมื่อพวกเค้ามีนักเตะฝีเท้าฉกาจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นณอง ปิแอร์ ปาแปง,เอริค คันโตน่า,ดิริเย่ร์ เดส์ชองส์และโรล็อง บล็อง นั่นทำให้ทัพเลอเบลอกลายเป็นเต็งแชมป์ยูโร 1992 แต่สุดท้ายกลับตกม้าตายอย่างอนาจ
ทัพตราไก่ผ่านรอบคัดเลือกมาแบบชนะ 8 เกมรวด โดยมีเป็นณอง ปิแอร์ ปาแปงเป็นตัวชูโรงที่ซัดไปคนเดียวถึง 9 ประตู แถมผลการจับฉลากแบ่งกลุ่มก็ดูเหมือนจะเป็นใจเมื่อฝรั่งเศสอยู่ในสาย A ร่วมกับสวีเดน,อังกฤษและเดนมาร์กที่ได้สิทธิเข้ามาเล่นแทนยูโกสวาเวียที่ถูกสั่งแบนด้วยเหตุผลทางการเมือง
แต่เมื่อเริ่มทัวร์นาเมนต์จริงฝรั่งเศสกลับพลาดท่าเสมอเจ้าภาพสวีเดนไปแบบหืดจับ 1-1 ในนัดประเดิมสนาม และในเกมที่สองพวกเค้าก็ยังไม่อาจเก็บชัยชนะเหนืออังกฤษได้อีกต่างหาก(เสมอ 0-0) ความกดดันทั้งหมดจึงพุ่งไปสู่เกมสุดท้ายให้พวกเค้าต้องเก็บชัยชนะเหนือเดนมาร์กให้ได้หากต้องการการันตีผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์
วันที่ 17 มิถุนายน 1992 ฝรั่งเศสเดินหน้าลุยใส่ทัพโคนมตั้งแต่นาทีแรกแต่กลับเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 8 แล้วถึงแม้ณอง ปิแอร์ ปาแปงจะไล่ตีเสมอให้ทัพตราไก่ในครึ่งหลังพร้อมความหวังเล็กๆที่จะผ่านเข้ารอบได้อยู่หากรักษาผลเสมอเอาไว้ได้ แต่สุดท้ายฝรั่งเศสก็ยังเสียเพิ่มอีกหนึ่งประตูพ่ายไป 1-2 จนตกรอบไปแบบช็อกโลก(เดนมาร์กผ่านเข้ารอบไปแทนและลงเอยด้วยการคว้าแชมป์) ความผิดหวังดังกล่าวยังเป็นจุดเริ่มต้นสู่ห้วงเวลาแห่งความล้มเหลวของทีมชาติฝรั่งเศสแบบต่อเนื่อง เมื่อพวกเค้ายังพลาดตั๋วไปลุยฟุตบอลโลก 94 ด้วยการพลาดท่าต่อทีมรองบ่อนอย่างบัลแกเรีย ซึ่งนั่นทำให้แข้งโกลเด้นเจนเนอรี่อย่างเป็นณอง ปิแอร์ ปาแปง,เอริค คันโตน่าและดาวิด ชิโนร่าที่โดดเด่นในการเล่นระดับสโมสรแต่กลับไม่อาจเฉิดฉายกับทีมชาติฝรั่งเศสได้อย่างที่ควรจะเป็น