ในปี 2000 โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ถูกจับตามองในฐานะกองกลางอนาคตไกล เมื่อเค้าทรอดแทรกทีมชุดใหญ่ของเสือใต้ขึ้นมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ก่อนเข้าสู่ฤดูกาล 2000/01 บาเยิร์น มิวนิคเพิ่งคว้าดับเบิลแชมป์แถมแดนกลางก็แข็งโป๊ก เยนส์ เยเรมีส,สเตฟาน เอฟเฟ่นส์แบร์ก,ทอร์สเท่น ฟิงส์,เมเม็ต โชล แถมยังเพิ่งดึงตัวชิริอโก้ สฟอร์ซ่ามาจากไกเซอร์สเลาเทิร์น จึงทำให้แข้งดาวรุ่งที่เพิ่งขึ้นมาจากทีมเยาวชนอย่างโอเว่น ฮาร์กรีฟไม่ค่อยมีใครสนใจ
ฮาร์กรีฟ เริ่มถูกหยิบจับลงสนามในฐานะตัวสำรอง ก่อนจะมีชื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกในวันที่ 16 กันยายน 2000 ในการดวลกับอุนเตอร์ฮัคกิงส์ เค้าถูกจับยืนทางกราบขวาซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งถนัดแต่ก็ยังทำได้ 1 แอสซิสต์จนทีมเก็บชัยชนะมาได้ 3-1 นั่นจึงทำให้ชื่อของโอเว่น ฮาร์กรีฟเริ่มเป็นที่พูดถึง แล้วก็ยิ่งเป็นที่พูดถึงมากขึ้นไปอีกเมื่อเค้าโดดเด่นมากขึ้นในบทบาทกองกลาง โดยจุดเด่นของฮาร์กรีฟคือการวิ่งขึ้นลงอยู่ตลอดและมีส่วนร่วมกับทั้งเกมรุกและรับ
ในปี 2001 ฮาร์กรีฟกลายเป็นนักเตะที่มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษทั้งที่ไม่เคยค้าแข้งในแผ่นดินแม่เลย เมื่อเด็กหนุ่มที่แจ้งเกิดในเยอรมันได้ยืนเคียงข้างเดวิด เบ็คแฮม,พอล สโคลส์และสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดในทีมชาติ เค้าเล่นอยู่ในเยอรมัน 7 ปีคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย,เดเอฟเบ โพคาล 3 สมัยและยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีก 1 สมัย ลงสนาม 218 นัดยิง 10 ประตู ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษกับแมนยูฯในปี 2007