บอลโลกวันนี้ในอดีต อิรัก ฝ่ามรสุมครองเจ้าฟุตบอลเอเชีย
ทีมชาติอิรัก
ทีมชาติอิรัก

เอเอฟซี หรือสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียได้ถูกตั้งขึ้นในปี 1954 เพื่อบริหารจัดการเกี่ยวเกมฟุตบอลทั้งในระดับทีมชาติ และสโมสรของทวีปเอเชีย แล้วอีก 2 ปีต่อมาพวกเค้าก็ได้จัดการแข่งขันเอเชี่ยนคัพขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อเป็นทัวร์นาเมนต์พิสูจน์ว่าชาติใดจะครองความเป็นเจ้าเอเชีย

ทีมชาติอิรัก

โดยการแข่งขันเอเชี่ยนคัพจะมีการจัดการแข่งขันกันในทุกๆ 4 ปี ซึ่งทั้ง ญี่ปุ่น ,อิหร่าน ,เกาหลีใต้ และซาอุดิอาระเบียที่คอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันประสบความสำเร็จอยู่เรื่อยมา แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่อิรักชาติที่ประสบปัญหารอบด้านสามารถผงาดขึ้นมาคว้าถ้วยเอเชียนคัดได้อย่างยิ่งใหญ่

ทีมชาติอิรัก

ทีมชาติอิรัก ถือเป็นชาติจากกลุ่มประเทศอาหรับที่ศักยภาพในเชิงลูกหนังที่โดดเด่น แต่ทว่าพวกเค้าก็ทำได้ดีที่สุดเพียงการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันเอเชียนเกมส์เท่านั้น ซึ่งเป็นการแข่งขันไม่ได้ถูกรับรองโดยฟีฟ่า ซึ่งอุปสรรคสำคัญที่ทำให้อิรักไม่สามารถประสบความสำเร็จในระดับนานาชาตินั้นเป็นผลมาจากการที่พวกเค้าประสบปัญหาทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ และทำให้บ้านเมืองไม่สงบ จนบ่อยครั้งที่เกมการแข่งขันในเกมเหย้าของอิรักนั้นไม่สามารถเล่นในสนามเหย้าของพวกเค้าเองได้ แต่กลับต้องหันไปใช้สนามกลางของประเทศเพื่อนบ้านแทน

ทีมชาติอิรัก

แต่กระนั้นพวกเค้าก็ช่วงเวลาที่ดีของพวกเค้าเช่นกันในช่วงยุค 2000 โดยพวกเค้าคว้าแชมป์การแข่งขันเอเชียตะวันตกเฟดเดอเรชั่นแชมเปี้ยนส์ชิพในปี 2002 ด้วยการปราบจอร์แดนหลังต่อเวลาพิเศษ 3-2 ซึ่งนั่นทำให้อิรักได้รับรางวัลทีมฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทวีปเอเชียในปี 2003 และในการแข่งขันเอเชี่ยนคัพปี 2007 อิรักก็ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้เหมือนเคย โดยมีนาชัด อัคลาม(กองกลาง) และยูนิซ มามู๊ด(กองหน้า)เป็นตัวชูโรง

ทีมชาติอิรัก

อิรัก คว้าอันดับหนึ่งในรอบแรกด้วยการไม่แพ้ใครจนผ่านเข้าไปสู่รอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ หลังจากนั้นพวกเค้าก็ปราบเวียดนานในรอบควอเตอร์ไฟนอล และเกาหลีใต้ในรอบรองชนะเลิศจนทะลุเข้าชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก และในวันที 29 กรกฎาคม 2007 อิรักก็เอาชนะซาอุดิอาระเบียไป 1-0 คว้าแชมป์เอเชี่ยนคัพได้สำเร็จ โดยนับเป็นแชมป์แรก และแชมป์เดียนับจนถึงปัจจุบัน

เขียนโดย DT-1

ขอบเขตความรับผิดชอบ : วิดีโอนี้ถูกสร้างขึ้นและถูกผลิตโดย “youtube.com” “AFC Asian Cup” สามารถค้นหาได้ทั่วไป ซึ่งทำให้เจ้าของวิดีโอนี้ที่ผลิตขึ้น เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้