แม้ปัจจุบัน อาร์เซนอล จะมีปัญหาในเกมรับ และเสียประตูอย่างง่ายดาย แต่หากย้อนกลับไป 30 ปี ก่อนพวกเค้าจัดเป็นทีมที่มีเกมรับเหนียวแน่นเป็นอันดับต้นในอังกฤษ โดยมี โทนี่ อดัมส์ตำนานสโมสรเป็นตัวชูโรง แต่อันที่จริงแล้วก็ยังมีนักเตะผึ้งงานอีกคนที่เป็นคู่ขาชั้นดีให้กับ อดัมส์ นั่นก็คือเค้าคนนี้ สตีฟ โบลด์
สตีฟ โบลด์ ถือเป็นผลผลิตจากทีมเยาวชนของ สโต๊ค ซิตี้ แม้จะเริ่มแจ้งเกิดในตำแหน่งแบ็คขวาแต่ทว่าภายหลังเจ้าตัวกลับมาแจ้งเกิดในฐานะปราการหลังตัวกลาง โดยเค้าได้เล่นฟุตบอลอาชีพกับช่างปั้นหม้อตั้งแต่ต้นยุค 80 แม้ในฤดูกาล 1985/86 สโต๊ค ซิตี้ จะหล่นลงไปอยู่ในลีกดิวิชั่น 2 แต่ สตีฟ โบลด์ ก็ยังคงอยู่ช่วยทีมต่อไป ด้วยสรีระที่สูงใหญ่ทำให้เค้ามีความโดดเด่นในการป้องกันลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่ โบลด์ ลดตัวลงมาเล่นในลีกรอง จึงน่าเสียดายที่เค้าไม่ค่อยได้รับการจับตามองจากทีมอื่นๆมากนัก และยังถูกหมางเมินจากสารระบบทีมชาติอีกด้วย
ในปี 1988 จอร์จ เกรแฮม กุนซือ อาร์เซนอล ก็ตัดสินใจใช้เงิน 390,000 ปอนด์ ดึงตัว สตีฟ โบลด์ มาร่วมทีม และในวันที่ 27 สิงหาคม 1988 สตีฟ โบลด์ ก็ประเดิมสนามให้ อาร์เซนอล เป็นครั้งแรก โดยเค้าช่วยทีมเก็บสามแต้มได้ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลนั้นเมื่อไอ้ปืนใหญ่บุกไปอัด วิมเบิลดัน ไป 5-1 ด้วยแผงแบ็คโฟว์ที่ลงตัวไล่เรียงตั้งแต่ ลี ดิ๊กสัน ,โทนี่ อดัมส์ ,สตีฟ โบลด์ และ ไนเจล วินเทเบิร์น ก็ทำให้ อาร์เซนอล มีเกมรับที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ และสามารถเบียด ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 1988/99 ได้สำเร็จ
แม้จะประสานงานกับ โทนี่ อดัมส์ ได้อย่างยอดเยี่ยมจนคว้าแชมป์ลีกได้แต่ก็น่าเสียดายที่ สตีฟ โบลด์ กลับไม่ค่อยมีดวงกับทีมชาติอังกฤษ ทำให้จะมีชื่อติดทัพสิงโตคำรามก็ต้องรอจนถึงปี 1994 ซึ่งหลายคนเห็นตรงกันว่าในเวลานั้นมันเลยช่วงฟอร์มดีที่สุดของเค้าไปแล้ว และทำให้เค้าสะสมหมวกทีมชาติได้เพียง 2 ใบเท่านั้นเอง สวนทางกับความสำเร็จในสีเสื้อปืนโตที่เค้าคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 3 สมัย(ดิวิชั่น 1 จำนวน 2 สมัย และ พรีเมียร์ลีก 1 สมัย) ,เอฟเอคัพ 2 สมัย ,ลีกคัพ 1 สมัย และคัพวินเนอร์คัพอีก 1 สมัย โบลด์ รับใช้ อาร์เซนอล ถึง 11 ปีเต็ม ลงเล่น 372 นัดยิงได้ 8 ประตู ก่อนที่จะย้ายไปแขวนเกือกกับซันเดอร์แลนด์ในปี 2000 และปัจจุบันก็กลับมารับงานคุมทีมเยาวชนชุดอายุไม่เกิน 23 ปีของ อาร์เซนอล
เขียนโดย DT-1
