วรวุธ ศรีมะฆะ เผยเหตุผลที่ทำให้มองว่า ทีมชาติไทยมีโอกาสคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ 2023 แม้ต้องเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่ง
วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตกุนซือ “ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี” ชุดคว้าเหรียญทองฟุตบอลชายซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย เชื่อมั่นทัพ “ช้างศึก ชุดใหญ่” มีโอกาสซิวแชมป์คิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้
“โค้ชโย่ง” ในวัย 51 ปี ดีกรีโปร ไลเซนส์ เผยว่า “คิงส์ คัพ ในครั้งนี้เราต้องเจอกับทีมคู่แข่งที่มีอันดับโลกสูงกว่าทั้งหมด ผมคิดว่ามันอยู่ที่วิธีการจบสกอร์ของเรา ส่วนการครอบครองบอลของเราทุกชุดถือว่าโอเค อีกอย่างเราได้เล่นในบ้านด้วย รวมถึงผู้เล่นทั้ง 23 คนที่ติดทีมมาก็ค่อนข้างจะสมบูรณ์”
“การขาดหายไปของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่บาดเจ็บ ผมคิดว่าเรามี วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ , เบนจามิน เดวิส หรือ สุภโชค สารชาติ พวกเขาสามารถทดแทนได้ ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นผลดีที่เราได้ลองใช้ตัวผู้เล่นใหม่ๆ ดูบ้าง หากขาด ชนาธิป ไป”
“การเจอกับ เลบานอน ผมคิดว่าผลมันสามารถออกได้ทั้ง 3 หน้า เราเล่นกับทีมจากตะวันออกกลาง เรามีเวลาคิดในการครองบอลไว้กับตัว เพราะความยากจะไม่เหมือนเราเล่นกับ เกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น เราต้องพยายามไม่เสียบอล ครองบอลให้เหนียวแน่น ผมว่าเราก็มีโอกาสชนะ เลบานอน ได้เหมือนกัน”
“ส่วนโอกาสเป็นแชมป์ของเราก็มีครับ เพราะเราเล่นในบ้านด้วย เราได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์จากแฟนบอล และสภาพอากาศ รวมถึงตัวผู้เล่นที่ถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่จะเป็นแชมป์”
“ส่วนกองหน้าตอนนี้เรามี 2 คน คือ ธีรศิลป์ แดงดา และ ปรเมศย์ อาจวิไล จริงๆ เราเล่นระบบกองหน้า 1 คนอยู่แล้ว เพราะเรายังมีตัวรุกด้านข้างที่สามารถเข้าไปยิงประตูได้ด้วยไม่ว่าจะเป็น บดินทร์ ผาลา , สุภโชค สารชาติ หรือ ยิม วรชิต ที่สามารถทะลุทะลวงเข้าไปยิงประตูได้ทุกเวลา ผมคิดว่าเกมรุกเราไม่น่ามีปัญหา”
“ส่วน กฤษดา กาแมน ในความคิดของผมเขาน่าจะเล่นในตำแหน่งกองกลางมากกว่าเซ็นเตอร์แบ็ค แต่ก็เข้าใจว่าฟุตบอลสมัยใหม่ต้องบิลด์ อัพ จากแดนหลัง แต่ผมคิดว่ากองหลังรุ่นใหม่ๆ อย่าง เอเลียส หรือ เฉลิมศักดิ์ อักขี หรือคนอื่นๆ ก็สามารถเล่นได้ดี เพราะว่าเราต้องมองถึงการเล่นเกมรับการป้องกันลูกกลางอากาศด้วย” โค้ชโย่ง กล่าวปิด