ข่าวฟุตบอลวรชิต ณ บีจี : บางทีเรื่องเงินอาจจะไม่ตอบโจทย์ และอาจจะต้องรอเวลา
buaksib sport news
วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ

นับตั้งแต่ ย้ายออกจาก ชลบุรี เอฟซี ชื่อของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่เลือกย้ายไป บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็ดูไม่เปรี้ยงปร้าง เหมือนช่วงเลกแรก ที่ยิงประตูต่อเนื่อง คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้น

การย้ายทีมที่ฮือฮา ที่สุดในช่วงเลกสองของ ไทยลีก คงหนีไม่พ้น เรื่องการที่ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้ปิดตำนานกับ ชลบุรี เอฟซี และย้ายไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว มหาศาล

การย้ายทีมครั้งนี้อย่างที่ทราบ นอกจากค่าตัว 30 ล้านบาท แล้ว นี่คือหนึ่งในนักเตะไทยที่กำลังคั่วตำแหน่งดาวซัลโว ฟุตบอลไทยลีก หลังจบเลกแรก

สถิติที่ชลบุรี ในเลกแรก วรชิต ลงสนามครบทั้ง 15 นัด ยิงไป 8 ประตู ในขณะที่ผ่านไปแล้วกับ บีจี ในไทยลีก 7 นัด เขาทำประตูไมได้เลยแม้แต่ประตูเดียว

คำถามคือมันเกิดอะไรขึ้น กับ วรชิต และ กับตัวของบีจี?

ถ้าถามว่าโดนย้อมแมวขาย มันคงจะไม่ใช่แบบนั้น เพราะหากมองถึงผลงาน ตั้งแต่เยาวชน จนมาถึงช่วงก่อนหน้านี้ วรชิต ได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรืองของการติดทีมชาติ หรือ การสร้างสถิติหลายอย่างๆ

แล้วมันเกิดอะไรขึ้น กับการลงเล่นในบอลลีก เฉลี่ยนัดล่าสุด ไม่ถึง 50 นาที และลงตัวจริงครบไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น

– การลงทุนของฟุตบอล ที่ไม่เหมือนกับหุ้น

ทุกคนคิดว่าการทำฟุตบอล เงินคือคำตอบ ซื้อตัวเก่งๆ มาเสริม มีโค้ชดีๆก็เพียงพอ แต่สุดท้าย มันไม่ใช่แค่นั้น

บีจี เลือกที่จะลงทุน กับวรชิต แต่สิ่งสำคัญที่ทีมขาดคือ เมื่อได้เขามาแล้ว จะจับวรชิต เล่นตรงไหน เล่นกับใคร มีหน้าที่อะไรในสนาม มันขาดความชัดเจน แตกต่างจาก ที่ชลบุรี เอฟซี ที่ ราวกับว่า การเล่นที่ชลบุรี ของยิม นั้น หลับตาเล่นก็รู้ว่าต้องทำอะไรในแต่ละเกม จะเอาฟุตบอลไปเล่นตรงไหน ถ้าจะยิงประตูฝ่ายตรงข้ามต้องทำอย่างไร

แต่ที่บีจี ในช่วงแรก ทีมเน้นการครอส มีดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ เป็นตัวสร้างเกมเป็นหลัก วรชิต ต้องรอบอลสอง หรือสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่กรอบเขตโทษ เพื่อเป็นอีกคนที่สร้างจังหวะ แต่ด้วยแนวทางที่ไม่ชัดเจน มันไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เขาจะทำอะไรไมได้

– คนใช้ไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้ใช้

การซื้อขายนักเตะนักเตะ หากมองของต่างประเทศ การซื้อนักเตะ นอกจากจะต้องประเมิน เรื่องคุณภาพในสนาม แล้ว นอกสนามก็ต้องประเมินด้วยว่า เข้ากับทีมได้ไหม การทำงาน โค้ชจะทำงานร่วมกับ ผู้อำนวยการเทคนิค การเลือกซื้อนักเตะไมได้มีแค่ชอยส์เดียว แต่ต้องมองหลายอย่าง ตามเก็บข้อมูลแล้ว ข้อมูลอีก

คนนี้พัฒนาได้ไหม เหมาะสมกับทีมหรือเปล่า อุปนิสัยของเขาล่ะ เขาไมได้แค่มองสถิติส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองถึงภาพรวมที่จะมาเพิ่มการแข่งขันในทีม มายกระดับ เติมเต็มมิติ

หลายครั้งที่ในไทย อาจจะมองแค่ข้อมูลง่ายๆ อย่างในวิกิพีเดีย เคยเล่นทีมนี้ เคยมีผลงานดี แต่ไม่เคยศึกษานิสัย หรือ สไตล์การเล่น

ลองคิดภาพ ถ้าโค้ชเล่นบอลบิวท์ อัพ แต่ ทีมซื้อนักเตะที่เตะบอลยาว ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีม รอยิงอย่างเดียว สุดท้าย มันก็จะมีปัญหา เมือนักเตะมา ก็มีโอกาสสูงที่จะทำผลงานได้ไม่ดี หรือต้องรอเวลาให้เขาปรับตัวเข้าหาทีม

วรชิต หรือ บีจี ใครที่ผิด?

คำตอบคือไม่ผิดเลย ทั้งบีจี หรือ วรชิต บีจี มีเงิน ไม่ผิดที่จะซื้อ วรชิต ตอบตกลงที่จะย้ายมา ก็ไม่ผิด แต่สำหรับฟุตบอล การมองหาความสำเร็จ ณ เวลานี้ หลายสโมสรต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การจะเป็นแชมป์ หรือประสบความสำเร็จ การสรรหา หรือ ซื้อตัวนักเตะก็สำคัญ และไม่ได้ ซื้อแต่คนเก่งๆ แต่สโมสร ต้องมีโครงสร้างในสนามก่อน ว่าเราจะเล่นอย่างไร

กองหลัง เราต้องการแบบไหน กองกลางล่ะ กองหน้าล่ะ เราต้องการแบบไหน และเมื่อเรามีโครง เราก็จะรู้ว่าเราควรเสริมตรงไหน ใครจะมาอุดรูที่ทีมขาด หรือ ยังต้องเติมเต็มเพื่อให้ สโมสร มีความสมดุล และมั่นคงมากยิ่งขึ้น

เพราะอย่างที่บอกฟุตบอล ไม่ใช่แค่การซื้อนักเตะที่เก่งๆ มารวม หาโค้ชเก่งๆ แล้วจบ แต่ยังต้องมีทีมสรรหา ที่ทำงานกับโค้ชได้อย่างลงตัว มีฝ่ายเทคนิค ที่ไมได้มองแค่โปรไฟล์ ในวิกิพีเดีย หรือมองแค่ฟอร์มล่าสุด แต่ยังเจาะลึกไปถึงอุปนิสัย และความเข้ากันกับสโมสร

ณ ตอนนี้ สิ่งสำคัญ อยู่ที่ตัวของ วรชิต ที่ต้องปรับเข้าหาบีจี หรือ บีจี ต้องมองระบบที่เหมาะสม เพื่อใช้งานเขาได้อย่างเต็มศักยภาพที่สุด เพื่อให้เขากลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง

buaksib sport newsbuaksib sport news