“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เตรียมพักแข้งหลักเพื่อให้พวกตัวสำรองลงสนาม และส่อให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กลับมายืนเป็นกองหน้านัดต้อนรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ขาดแคลนกองหลังในศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันที่ 22 ธ.ค.นี้
ความพร้อมของ ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์ ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 02.45 น.
ลิเวอร์พูล
คาว่ากุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะปรับทัพจากเกมล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกที่บุกไปชนะ สเปอร์ส 2-2 แม้จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะหลายราย เพราะมีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในสโมสร แต่พร้อมให้พวกแข้งดาวรุ่ง รวมถึงตัวสำรองได้ลงสนามในรายการนี้อยู่แล้วตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3 จึงถือโอกาสให้พวกแข้งหลักได้พักไปเลย แนวรับจะให้ โจ โกเมซ ยืนคู่กับ โจเอล มาทิป แดนกลางวาง ไทเลอร์ มอร์ตัน คุมเกมร่วมกับ นาบี้ เกอิต้า แนวรุกไม่น่าจะได้ ดิว็อค โอริกี้ ฟิตกลับมายืนหัวหอก จึงน่าจะให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เพิ่งหายเจ็บลงไปเคาะสนิมในตำแหน่งกองหน้าเพื่อประสานงานกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ ทาคูมิ มินามิโนะ
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริง
ควีวีน เคลเลเฮอร์, เนโก้ วิลเลี่ยมส์, โจ โกเมซ, โจเอล มาทิป, คอสตาส ซิมิคาส, เจมส์ มิลเนอร์, ไทเลอร์ มอร์ตัน, นาบี้ เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ทาคูมิ มินามิโนะ
เลสเตอร์
คาดว่ากุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส กุนซือ “จิ้งจอกสยาม” จะปรับทัพจากเกมล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกที่เปิดบ้านไล่ถล่ม นิวคาสเซิ่ล 4-0 และเหมือนได้พักมาแบบเต็มๆ เพราะเจอโรคเลื่อนจากเกมที่ถูกยกเลิกไม่ต้องลงเตะตามโปรแกรมมาแล้ว 2 เกม แม้จะมีนักเตะหลายคนติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน แต่น่าจะให้แข้งหลักลงไปเล่นร่วมกับพวกเด็กดาวรุ่งด้วยตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1 แนวรับอาจขยับ 2 ฟูลแบ็ก ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ กับ ไรอัน เบอร์ทรานด์ มายืนเป็นกองหลังจำเป็น เพราะมีปัญหานักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กได้รับบาดเจ็บหลายคน แนดกลางน่าจะให้ ยูริ ติเลอมองส์ คุมเกมร่วมกับ วีลฟรีด เอ็นดิดี้ แนวรุกน่าจะให้ เจมส์ แมดดิสัน กับ ฮาร์วีย์ บาร์นส เป็นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังของ พัตสัน ดาก้า กองหน้าตัวเป้า
ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล เสมอ เลสเตอร์ 1-1
โปรแกรมฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
02.45 น. ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์
02.45 น. เบรนท์ฟอร์ด VS เชลซี
02.45 น. สเปอร์ส VS เวสต์แฮม